เศรษฐกิจโลกจะเข้าภาวะชะลอตัวของโลกาภิวัตน์ โดยการค้าและการลงทุนทั่วโลกจะดำเนินไปในทิศทางที่ชะลอตัว และคาดว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตประมาณ 3.4% หลังได้รับแรงหนุนจากภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายลง และการพึ่งพาการบริโภคภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ทดแทนการส่งออกและการลงทุนที่ชะลอตัว
PwC ประเทศไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตต่ำกว่า 3% โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาครัฐ แต่ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงเรื่องสงครามระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านว่า จะขยายวงกว้างมาก-น้อยแค่ไหน รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงดำเนินต่อไปส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลจากรายงาน Global Economy Watch ฉบับล่าสุดบอกว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2563 คาดว่า จะเติบโตที่ 3.4% เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวของศตวรรษที่ 21 ที่ 3.8% ต่อปี โดย PwC คาดการณ์ว่า ปี 2563 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวของโลกาภิวัตน์ (Slowbalisation) โดยได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงเป็นความท้าทายต่อการจัดระเบียบห่วงโซ่อุปทานและการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม PwC คาดการณ์ว่า ภาคบริการจะยังคงเป็นดาวเด่นของการค้าโลก โดยคาดว่า มูลค่าของการบริการส่งออกทั่วโลกจะสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 212.56 ล้านล้านบาท) ในปี 2563 โดยสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรจะยังคงเป็นประเทศผู้ส่งออกบริการชั้นนำของโลกและคาดว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนจะสามารถแซงหน้าฝรั่งเศสขึ้นเป็นอันดับที่ 4 ได้ในปีนี้
ทั้งนี้ ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 ยังคงเป็นไปในระดับทรงตัว โดยเศรษฐกิจหลักของโลกจะได้รับแรงหนุนจากภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายลงและการพึ่งพาการบริโภคภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ทดแทนการส่งออกและการลงทุน
อ้างอิง : PwC