4 ข้อห้ามที่ไม่ควรทำเมื่อจะใช้ Line ในองค์กร ถ้าไม่อยากให้ใครลาออก


ทุกวันนี้พวกแอปพลิเคชัน นวัตกรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ ล้วนถูกผลิตคิดค้นขึ้นมาให้มนุษย์เราเกิดความสะดวกสบายในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Line ที่เป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักที่คนไทยนิยมใช้งานกันมากที่สุดในประเทศ

ด้วยความที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากนี้เอง ทำให้ Line ไม่สามารถแบ่งแยกการใช้งานได้ระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต มันจึงต้องถูกจำกัดความให้เป็นแพลตฟอร์มติดต่อสื่อสารของกลุ่มคนวัยทำงานไปด้วยโดยปริยาย

มีหลายออฟฟิศที่ติดต่อกัน ส่งงานกันผ่านแอปพลิเคชันที่ 3 อย่าง Slack, Mattermost หรือ Let’s Chat ที่ชาวต่างชาตินิยมใช้กัน แต่เพราะในประเทศไทยเรานิยมความสะดวก ง่ายดาย และมักไม่แบ่งเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน Line จึงเป็นตัวเลือกที่ง่ายและดีที่สุดในการติดต่อคุยงาน

ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วคุณสามารถใช้ Line สั่งงาน ทำงานได้ ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะถ้าจัดระเบียบดี ๆ Line เองก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือชั้นเยี่ยมที่สามารถสร้างกลุ่มงานได้ ส่งข้อความได้ อัปเดตสิ่งต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ติดต่อกันได้ง่ายดายสุด ๆ แต่เพราะการใช้งานอย่างผิดประเภทบางครั้งจากข้อดีอาจกลายเป็นข้อเสียใหญ่หลวงได้โดยไม่รู้ตัว มีพนักงานมากมายที่โดนสั่งงานผ่าน Line แล้วรู้สึกไม่โอเคกับการทำงานรูปแบบนี้ เพราะเขามักจะถูกหัวหน้าใช้งานแอปพลิเคชันสุดฮิตในทางที่ผิดแบบ 4 ข้อนี้นั่นเอง

1. ติดต่อคุยงานตลอด แม้หลังเลิกงานก็ตาม

ด้วยความสะดวกสบายของแอปฯ Line หัวหน้าหลายคนเลยมักจะลืมตัว ตามงาน คุยเรื่องงาน แม้มันจะเลยเวลางานไปแล้วก็ตาม เช่น สอบถามเรื่องงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า หรือทักมาตามงาน คุยเรื่องงานตอน 2 ทุ่ม ซึ่งถึงแม้มันจะไม่ได้ดึกมากมาย แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น

มันอยู่ตรงที่คุณไม่สมควรเอาเวลาส่วนตัวของพนักงานมาปะปนกับการทำงาน เพราะเมื่อเลิกงานแล้วนั่นคือเวลาพักผ่อนของพวกเขา ถ้าคุณไม่เว้นช่องว่างเอาไว้บ้าง และคุยทวงถามเรื่องงานนอกเวลางานบ่อย ๆ พนักงานจะรู้สึกกดดัน รู้สึกโดนเอาเปรียบ รู้สึกอึดอัด และมองว่าคุณเห็นแก่ตัว ไม่มีความเป็นมืออาชีพ กลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จะทำให้พนักงานดี ๆ หนีจากองค์กรของคุณ

2. สั่งงาน คุยงานในวันหยุด

บางคนอาจมีความคิดว่า วันเสาร์-อาทิตย์มันเป็นวันหยุดที่มีเวลานาน ไม่ได้อัปเดตงานกันเหมือนวันธรรมดา กลัวว่าจะมีปัญหา ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า พนักงานได้พักไปบ้างแล้ว การทวงถามเรื่องงานบ้างคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่นั่นคือความคิดที่เห็นแก่ตัว คุณไม่ควรเอาเวลาพักของใครมาใช้ในเรื่องงาน ต่อให้เขาจะพักไปนานแค่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่วันหยุดยาวปีใหม่ หรือช่วงสงกรานต์ก็ไม่ควร

เพราะนั่นแปลว่าคุณไม่เคารพความเป็นส่วนตัว ไม่เคารพเวลาของเขา และไม่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะหน้าที่ของคุณคือ ต้องสั่งการและบรีฟ จัดเตรียมทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่วันศุกร์ หรือก่อนหยุดยาว ไม่ใช่มาคุยกันในวันหยุดแบบนี้

3. ชมได้ แต่ห้ามติผ่าน Line เด็ดขาด

มีคำกล่าวสำหรับหัวหน้าที่ว่า “ต้องติในที่ลับ ชมในที่แจ้ง” ซึ่งเป็นคำที่ใช้ได้ดีแม้ในยุคนี้ก็ตาม ถึงแม้ Line จะสะดวกสบายมากในการสื่อสารสิ่งต่าง ๆ ออกไป แต่เพราะส่วนใหญ่แล้วการสั่งงาน คุยงาน เราจะสร้างกลุ่มที่มีพนักงานมากมายอยู่ในนั้น ซึ่งบ่อยครั้งที่หัวหน้าทั้งหลายมักจะลืมใส่ใจในความรู้สึกของลูกน้อง และพูดชม พูดตำหนิ พูดวิจารณ์ต่าง ๆ ออกไปทันทีที่ได้เห็นผลงาน โดยลืมไปว่ามีคนอีกมากมายกำลังดูบทสนทนานี้อยู่

ซึ่งการตำหนิผ่านไลน์กลุ่มนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกน้องคนนั้นเสียหน้าเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาเสียความรู้สึก และเกิดอคติกับคุณขึ้นในใจ ซึ่งไม่มีใครอยากโดนแบบนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นให้คุณใช้งาน Line กลุ่มเมื่อต้องการชมใครสักคน และให้ทักแชตไปหาส่วนตัวเมื่อต้องการให้ใครแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง

4. ใช้ Line ในการเม้าท์สิ่งต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นเม้าท์ลูกค้า เม้าท์ลูกน้อง หรือคุยนินทาเรื่องของใครก็ตาม ห้ามทำผ่าน Line เด็ดขาด ซึ่งอันที่จริงคุณไม่ควรทำที่ไหน กับใครเลย เพราะเป็นพฤติกรรมที่จะทำให้คุณขาดความน่าเชื่อถือ แต่แน่นอนว่าบางครั้งเราเองก็อาจจะอยากคุย อยากระบายกับใครบางคนบ้าง ซึ่งสามารถทำได้ แต่ห้ามทำใน Line

เพราะมันจะเก็บหลักฐานการพูดคุยต่าง ๆ ทุกอย่างไว้หมด และฝั่งตรงข้ามคู่สนทนาของคุณสามารถแคปไปพูดต่อได้ ถึงแม้เค้าจะไว้ใจได้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายเรื่องสุดวิสัยมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความสัมพันธ์ไม่ดีตามมา อาจมองหน้ากันไม่ติด หรือถึงขั้นเสียลูกค้าเลยก็ได้

พฤติกรรมเหล่านี้ต้องหลีกเลี่ยงให้ดีเวลาจะใช้ Line ในองค์กร ยิ่งถ้าองค์กรของคุณมีเด็กรุ่นใหม่อยู่เป็นจำนวนมาก คุณยิ่งต้องห้ามทำพฤติกรรมแบบนี้เด็ดขาด เพราะพวกเขาจะยึดเอา Work-Life Balance เป็นสิ่งสำคัญ และถ้าคุณล้ำเส้นพวกเขาบ่อย ๆ เขาจะหมดความอดทนและลาออกจากคุณทันที หากองค์กรคุณมีเด็กรุ่นใหม่ที่ลาออกอยู่บ่อยครั้ง อย่าโทษว่าพวกเขาไม่มีความอดทน แต่ให้ย้อนมองดูตัวเองก่อนว่า เราไปรบกวนเวลาส่วนตัวเขามากเกินไป หรือเผลอทำ 4 ข้อนี้ออกไปรึเปล่า