ดีจริงหรือ? หาคำตอบเพราะอะไร “ร้านค้าไร้พนักงาน” ในจีนถึงไม่เวิร์ค และต้องปิดตัวลงในที่สุด


ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายคนคงได้ยินข่าว “ร้านค้าไร้พนักงาน” ที่แสดงถึงความล้ำหน้าของเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการ และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้บริโภคอยากจะเข้าไปทดลองใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับ “ร้านค้าไร้พนักงาน” ในจีนมีมากกว่า 40 ร้านค้า ซึ่งมีวัตุประสงค์ต้องการเพิ่มผลกำไรให้กับร้านค้าปลีกด้วยวิธีการลดต้นทุนการใช้พนักงาน ด้วยแนวโน้มดังกล่าวจึงเกิดความกังวลที่ว่าร้านค้าแบบดั้งเดิมอาจจะหมดไปในอนาคต และพนักงานจำนวนมากต้องตกงานไปในที่สุด

อย่างไรก็ตาม “ร้านค้าไร้พนักงาน” ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะในประเทศจีนกลับมีร้านค้าที่ให้บริการในรูปแบบดังกล่าวต้องทยอยปิดตัวลงกันไปตาม ๆ กัน แม้ว่า “ร้านค้าไร้พนักงาน” จะช่วยประหยัดต้นทุนแรงงาน แต่ในด้านการให้บริการนั้นยังไม่สามารถเทียบเท่ากับการมีพนักงานประจำร้านได้ เช่น ร้านขายสินค้าแฟชั่นดั้งเดิมในจีนจะต้องจ้างผู้จัดการร้านจำนวน 1 อัตรา และผู้ช่วยฝ่ายขายอีก 4 อัตรา เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 17,000 หยวน (ประมาณ 82,350 บาท) ต่อเดือน

ขณะที่ “ร้านค้าไร้พนักงาน” จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น กล้อง, เซ็นเซอร์, กล้องจดจำใบหน้า, อุปกรณ์รับฟังเสียง, อุปกรณ์ชำระเงินแบบดิจิทัล ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น “ร้านค้าไร้พนักงาน” ยังจะต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการ AI และ Big Data ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 17,000 หยวน ต่อเดือนอย่างแน่นอน

อีกทั้ง ในเรื่องปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าก็เป็นจุดอ่อนของ “ร้านค้าไร้พนักงาน” เช่นกัน เพราะบางครั้งลูกค้าที่เดินเข้ามาใช้บริการจำเป็นต้องการได้รับไอเดีย หรือคำแนะนำจากพนักงานในเรื่องของสินค้าเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ปัจจุบัน “ร้านค้าไร้พนักงาน” มีแค่แพลตฟอร์มแค่แสดงสินค้า และชำระเงินเท่านั้น รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับการจ้างพนักงาน

ที่มา: ejinsight