ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
Starbucks ได้ประกาศแผนเพื่อช่วยโลกใบนี้ ในเรื่องของการลดการใช้น้ำ, การลดจำนวนขยะ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เหลือ 50% ภายในปี 2030
“ทุกวันนี้โลกต้องการความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม ผมต้องการย้ำว่าแผนงานที่เรากำลังจะทำ เป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับความรับผิดชอบของ Starbucks ในฐานะพลเมืองของโลก นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานของความเกี่ยวข้องของแบรนด์และผลลัพธ์ทางธุรกิจโดยรวมของเรา” ซีอีโอ เควิน จอห์นสัน เขียนในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น, พนักงาน และลูกค้า
ตอนนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม Microsoft ก็เพิ่งทำการประกาศว่าจะทำการลดการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำกว่าศูนย์ในปี 2030 คาดว่า Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ที่อยู่ในคณะกรรมการของ Starbucks จะมีส่วนร่วมในการสร้างเป้าหมายเกี่ยวกับโครงการสีเขียวครั้งนี้
Starbucks เริ่มแนวทางเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ด้วยการกำจัดหลอดพลาสติกและแทนที่ด้วยฝาแบบใหม่ที่สะดวกต่อการดื่มพร้อมทั้งทำจากวัสดุที่รีไซเคิลได้
Starbucks ถูกประเมินว่าทำการปล่อยคาร์บอน 16 ล้านตัน ใช้น้ำ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร และสร้างขยะ 868 ล้านตันทั่วโลกในปี 2018 ด้วยตัวเลขขนาดนี้ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งสร้างกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนขึ้นมา
กลยุทธ์เพื่อโลกสีเขียวและความยั่งยืนของ Starbucks
1. เพิ่มตัวเลือกส่วนผสมจากพืช
2. เปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวเป็นการใช้ซ้ำ
3. ลงทุนในการปฏิบัติทางการเกษตรที่เป็นนวัตกรรมและการปฏิรูปวิธีการใช้น้ำ
4. ลงทุนด้วยวิธีที่ดีกว่าในการจัดการกับขยะ
5. พัฒนาร้านค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการดำเนินงานการผลิตและระบบการจัดส่ง
อ้างอิง: