หนึ่งในปัญหาหนักใจที่เหล่าผู้ประกอบการหน้าใหม่ต้องเจอกันทุกคนคือ ไม่รู้ว่าจะตั้งเงินเดือนพนักงานยังไงดี ให้ธุรกิจสามารถอยู่ได้ และพนักงานพอใจกับฐานเงินเดือนตรงนั้น ซึ่งการเซฟรายจ่ายของธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่หากคุณลดรายจ่ายในการจ้างคนงานลง แน่นอนว่าประสิทธิภาพในการทำงานก็จะต่ำไปด้วย เพราะคุณจะได้แต่พนักงานที่ไม่มีคุณภาพมาร่วมงานด้วยแทน
ดังนั้นอย่าปรับลดจนรู้สึกว่ามันมากเกินไป แต่ลองหาจุดกึ่งกลางที่พอดีกับทั้งสองฝ่าย และตั้งฐานเงินเดือนตาม 4 ปัจจัยนี้ดีที่สุด
ให้เงินเดือนแบบเกาะกลุ่มไปกับคนอื่น
อันดับแรกเลยคือการให้เงินเดือนตามขนาดธุรกิจคุณ คุณอาจจะลองไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง หรือคนที่ทำธุรกิจในรูปแบบคล้าย ๆ กัน และมีโมเดลธุรกิจใกล้เคียงกัน เพื่อดูว่าเขารับสมัครพนักงานกันเงินเดือนแค่ไหน โดยเช็กได้ง่าย ๆ จากเว็บไซต์รับสมัครงานนั่นเอง เป็นแหล่งให้เปรียบเทียบได้อย่างดีว่าควรตั้งฐานเงินเดือนตามขนาดธุรกิจคุณยังไง
ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 15-18% ของยอดขาย ซึ่งการตั้งเงินเดือนแบบเกาะกลุ่มกันไปนี้จะช่วยให้คนอยากเข้ามาสมัครทำงานกับคุณ เพราะฐานเงินเดือนเราเท่า ๆ กันกับเจ้าอื่น ๆ ส่งผลให้ได้คนที่มีประสิทธิภาพมาร่วมงานด้วย
ให้เงินเดือนรายวันตามหลักกฎหมาย
หากคุณไม่อยากจะวุ่นวาย คิดคำนวณเงินเดือนให้มากความ ก็สามารถยึดหลักกฎหมายแรงงานกำหนดเอาไว้เลยก็ได้ ซึ่งอัตราเงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำจะอยู่ที่ 330 บาทต่อวัน แลกกับการทำงาน 8 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งคุณจะเลือกจ่ายแบบรายเดือน หรือรายวันก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจ่ายกันเดือนละ 2 รอบ คือ 1 และ 16 ของทุกเดือน
นั่นเพื่อให้พนักงานมีเงินไปใช้ทำในสิ่งที่ต้องการ และขจัดปัญหาหมุนเงินเดือนไม่ทัน เงินหมดก่อนสิ้นเดือน ทำให้ต้องเบิกเงินล่วงหน้านั่นเอง เป็นการลดภาระให้เจ้าของธุรกิจทางอ้อมได้อีกด้วย
กระตุ้นพนักงานด้วยค่าคอมมิชชั่น
สำหรับบางที่จะมีเรทค่าคอมมิชชั่นมอบให้ด้วย หากพนักงานสามารถขายสินค้าได้ตามเป้า ซึ่งนอกจากจะกระตุ้นให้คนอยากสมัครเพิ่มมากขึ้นแล้ว คุณยังได้พนักงานที่มีไฟในการทำงานมาช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจคุณอีกต่างหาก เป็นการจ่ายเงินเดือนแบบวิน-วินกันทั้งสองฝ่าย
โดยสัดส่วนคอมมิชชั่นที่ใช้กันส่วนมากคือ 3% ของยอดขาย หรือบางที่อาจจะใช้แบบขั้นบันไดที่จะเพิ่มแรงจูงใจเข้าไปอีก เช่น ขายได้ 1 หมื่นบาทได้ค่าคอม 3% แต่ถ้าขายได้ 5 หมื่นบาท ได้ค่าคอม 5% เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะมีแบบที่คอมมิชชั่นล้วนๆ ไม่มีเงินเดือนให้ และแบบที่มีเงินเดือนรวมคอมมิชชั่น แต่ฐานเงินเดือนก็จะถูกลงกว่าปกติ
จ้างคนเก่ง ให้เงินเดือนตามตกลง
สุดท้ายแล้วหากคุณคิดอยากจะจ้างคนเก่งทีเดียวให้เขาดูแลระบบ และจัดการทุกอย่างให้ออกมาดีเลย โดยไม่ต้องปวดหัวบ่อยๆ ก็สามารถตกลงเงินเดือนกันได้ตามที่คุณรับไหว โดยไม่อิงจากเกณฑ์ใดๆ ของทั้ง 3 ตัวเลือกด้านบนทั้งสิ้น ซึ่งข้อดีของการจ้างคนเก่ง มีประสบการณ์ และให้เงินเดือนตามตกลงคือ คุณจะได้คนที่ไว้วางใจได้ ไม่ต้องเสียเวลาสอนงาน หรือปวดหัวกับปัญหาที่ต้องเจอ อีกทั้งเขายังสามารถให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาให้คุณได้หากเกิดอะไรขึ้น
กลับกันในเมื่อคุณจ้างคนเก่ง ก็ย่อมต้องจ่ายแพงกว่า ซึ่งคุณอาจจะต้องเพิ่มเงินเดือนให้ในฐานะที่มีประสบการณ์และทำงานได้หลากหลาย แต่ถ้าคุณจ้างคนนี้คนเดียว และให้ทำงานแทนในส่วนของ 2 คนได้ ก็อาจจะคุ้มค่ากว่ากัน ตรงนี้อยู่ที่คุณตกลงและบาลานซ์จำนวนพนักงานในองค์กรได้เลย