วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2567

ไทยพัฒนา "ชุดตรวจไวรัสโคโรนา 2019" รู้ผลไม่เกิน 45 นาที เตรียมรับมือระยะที่ 3

by Smart SME, 18 มีนาคม 2563

สถาบันวิทยสิริเมธี ศิริราช ปตท. พัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนา 2019 รู้ผลเร็ว 30-45 นาที ต้นทุนถูก 475 บาท ใช้อุปกรณ์ในไทยทั้งหมด ช่วยให้ไทยรับมือกับการระบาดของไวรัสระยะที่ 3 ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเร่งผลิตชุดทดสอบ ขณะนี้มีสต็อคชุดตรวจประมาณ 10,000 ชุด และสามารถผลิตออกมาได้วันละ 4,000 ชุดต่อวัน

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 นายจำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) ร่วมแถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั่วโลกในขณะนี้ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน สถาบันวิทยสิริเมธี จึงได้ใช้ศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคลากรสถาบันฯ เร่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ให้สามารถตรวจโรคได้ภายใน 30-45 นาที รวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากกลุ่ม ปตท. และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

นอกจากนั้น ยังได้รับความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจาก สถาบัน Broad Institute, Massachusetts Institute of Technology and Harvard, USA และความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี

ทั้งนี้ จะเร่งพัฒนาทดสอบความแม่นยำ ตลอดจนพัฒนารูปแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยลดระยะเวลาการวินิจฉัยโรค ด้วยต้นทุนต่ำ ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย สนับสนุนให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ด้าน นายชยสิทธิ์ อุตมาภินันท์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล สถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า สถาบันฯ ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภาควิชาจุลชีววิทยา เริ่มทดลองกับตัวอย่างจากคลินิกแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมแผนผลิตชุดทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในขั้นตอน Clinical Trial ในเดือนเมษายนนี้

"ขณะนี้มีสต็อคชุดตรวจประมาณ 10,000 ชุด และสามารถผลิตออกมาได้วันละ 4,000 ชุดต่อวัน แต่ต้องรอการประกาศยืนยันผลการทดสอบการใช้ และการยืนยันจาก รพ.ศิริราชอีกครั้ง หากได้รับการประกาศใช้แล้ว เชื่อว่า จะสามารถเร่งผลิตออกมาใช้ได้ต่อไป"

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า สถาบันฯ ขอขอบคุณ กลุ่ม ปตท.และธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งโครงการ ExpresSo ซึ่งเป็นหน่วยงานนวัตกรรม ของ ปตท. ที่สนับสนุนบุคลากรเข้าร่วมดำเนินการเพื่อเตรียมแนวทางในการขยายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในภาคีเครือข่ายอย่างเร่งด่วน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดตรวจโรคดังกล่าวจะเพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัยเชื้อไวรัสนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทยได้อย่างทันท่วงที และทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงในเร็ววัน

สำหรับชุดตรวจ COVID-19 ใช้เทคนิค CRISPR Diagnostic เพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งปัจจุบันต้องทำในห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ใช้เวลานาน ให้สามารถตรวจวินิจฉัยได้รวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้น และ ต้นทุนในการตรวจต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งสถาบันวิทยสิริเมธี เร่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัย COVID-19 โดยความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจาก สถาบัน Broad Institute, Massachusetts Institute of Technology and Harvard, USA และความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ในการวิจัยเพื่อพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สามารถตรวจโรคได้ภายใน 30 – 45 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4 – 6 ชั่วโมงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจาก กลุ่ม ปตท. และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ทั้งนี้ ผลการผลิตและทดสอบชุดตรวจวินิจฉัย COVID 19 ในห้องปฏิบัติการ โดยคณะนักวิจัยของ VISTEC ได้ผลดังนี้

1.ลอง VISTEC Test Kit Diagnostics เพื่อตรวจจับไวรัส COVID 19 ได้ผลดีมาก การตรวจวินิจฉัยรวดเร็วเหมือนการทดสอบหญิงตั้งครรภ์

2.วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2563 มีการทดสอบ โดยการใช้เชื้อไวรัส COVID 19 ของจริง ที่ รพ.ศิริราช

3. ต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการจัดทำชุดอุปกรณ์ตรวจวัดทุกอย่าง ในเมืองไทยประมาณ 15 US$ (ประมาณ 475 บาท)

กล่าวโดยสรุป

1. VISTEC สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผลิตชุดตรวจจับไวรัส COVID 19 ได้สำเร็จในเวลาอันสั้น เป็นคณะแรกๆของโลก

2. ชุดตรวจวัดนี้ เมื่อผลิตเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้ไทยรับมือกับการระบาดของไวรัสระยะที่ 3 ได้ดียิ่งขึ้น เพราะ มีราคาถูกมาก ใช้เวลาตรวจสั้น มีความไวสูง และ ผลิตได้เองภายในประเทศ

3. VISTEC/ปตท. พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้กับหน่วยงานของรัฐนำไปผลิตเป็นชุดตรวจในปริมาณมากๆ

 

อ้างอิง : 

https://www.hfocus.org/content/2020/03/18699

 


Mostview

คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท

ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น

กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา

หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง

ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

SmartSME Line