วินวินทั้งคู่! แท็กซี่เปลี่ยนจากรับคนมาส่งของให้เคอรี่แก้ปัญหาพัสดุล้นส่งไม่ทัน


การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายอาชีพต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ตนเองอยู่รอด และอีกด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสให้อีกหลายธุรกิจกลายเป็นที่นิยมในสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้

จากที่กล่าวมาสามารถยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจ นั่นคือการจับมือทำงานร่วมกันระหว่าง “สมาร์ทแท็กซี่” และผู้ให้บริการส่งสินค้าอย่าง “เคอรี่” จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้คนมีการเดินทางออกจากที่พักอาศัยน้อยลง เพื่อให้เป็นไปมาตรการของรัฐบาลที่ต้องการหยุดการแพร่ระบาด ดังนั้น อาชีพที่ได้รับผลกระทบอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นคนขับแท็กซี่ที่รายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อีกด้านหนึ่งกลายเป็นบริการส่งสินค้าแบบเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้คนไม่สามารถออกไปซื้อของ เดินห้างสรรพสินค้า และใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้น การสั่งของแบบเดลิเวอรี่จึงเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้

เช่นเดียวกับ “เคอรี่” ผู้ให้บริการส่งสินค้าที่มีปริมาณพัสดุเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การส่งของไปถึงมือผู้รับเป็นไปอย่างล่าช้า ดังนั้นจึงเกิดความร่วมมือกันของทั้งสองฝ่ายใต้บริการชื่อว่า “Smart Kerry” ที่ใช้รถแท็กซี่เข้ามาช่วยบริการขนส่งพัสดุ

ตัวแทนของ “สมาร์ทแท็กซี่” อธิบายผ่าน เฟซบุ๊ก ว่าจากการเก็บข้อมูลจาก GPS ตอนนี้ผู้ขับแท็กซี่สามารถหารายได้เฉลี่ย 500-600 บาทต่อวัน ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นกับอาชีพนี้ ย้อนกลับไปปีน้ำท่วมก็หารายได้ได้มากกว่านี้ ประกอบกับตอนนี้ทางเคอรี่มีปัญหาในการส่งของ จึงเกิดความคิดที่ว่าทำไมไม่เอาแท็กซี่ไปส่งของ จึงมีการติดต่อถึงความเป็นไปได้ และได้พูดคุยหารือร่วมกัน จึงเป็นที่มาของ “Smart Kerry” ในที่สุด

 

 

สำหรับรายละเอียดของการรับส่งพัสดุนั้น ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Smart Taxi.,Ltd จะมีการอัพเดตข้อมูลอยู่ตลอดว่าศูนย์เคอรี่ตรงไหนบ้างที่ต้องการรับรถแท็กซี่ให้นำพัสดุไปส่ง

จะเห็นได้ว่าบริการที่เกิดขึ้นถือว่าวิน ๆ ทั้งสองฝ่าย และเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีสำหรับในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งผู้ขับรถแท็กซี่ที่จะมีรายได้ในช่วงคนอยู่กับบ้าน และเคอรี่ที่สามารถกระจายส่งสินค้าได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

ที่มา: Smart Taxi.,Ltd