ตอนนี้ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเป็นธุรกิจใหญ่แค่ไหน หรือเพิ่งสร้างเมื่อวาน ต่างต้องได้รับผลกระทบกับโควิด-19 กันทั้งนั้น ซึ่งพิษธุรกิจนี้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้ธุรกิจระดับโลกมากมายต้องชัตดาวน์ตัวเองลง รวมถึงเหล่า SME เองก็ต้องหามาตรการรัดเข็มขัดช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ กันทั้งสิ้น เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์นี้
ซึ่งลำพังแค่การลดค่าใช้จ่ายอย่างเดียวไม่ใช่ทางรอดสำหรับวิกฤตในครั้งนี้ แต่คุณต้องเตรียมวิธีรับมือมันทุกหนทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นกว่าเดิม จากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หากคุณอยากจะพาตัวเอง และธุรกิจให้หลุดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ต้องลงมือทำ 5 สิ่งนี้!
1. มองหาลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าเก่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม คือการรักษาลูกค้า และหาลูกค้าเพิ่มให้ได้ เพราะธุรกิจจะขับเคลื่อนได้ต้องมีกระแสเงินสด หรือสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อรับของมา ขายไป หรือผลิตสินค้าขึ้นมาให้นำมาขายเป็นเงินกลับไปจ่ายลูกน้องได้ ซึ่งแน่นอนว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครอยากใช้เงิน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องยอมแพ้ เพราะหน้าที่ของคุณคือการสร้างมูลค่าให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น จนเขาอยากที่จะซื้อ ต่อให้ต้องลงทุนเพิ่มในจุดใด ถ้ามันช่วยให้ธุรกิจขายได้ง่ายขึ้น ก็ควรจะทำ
2. มองหาโอกาสใหม่ให้ธุรกิจเดินหน้า
การลองผิดลองถูกในช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยงที่สุด แต่มันมีการลองผิดลองถูกมากมายที่ไม่ได้เสียเงินอะไร แต่อาจช่วยให้ธุรกิจคุณมีทางรอดขึ้นมาได้ เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่อาจเข้าร่วมกับบริการเดลิเวอร์รีเพื่อส่งอาหารถึงที่ ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องของการปรับตัว หรือร้านแอร์อาจเพิ่มบริการล้างแอร์และฆ่าเชื้อโรคไปด้วยเสริมเข้าไป เป็นเหมือนสิ่งกระตุ้นให้ลูกค้าอยากใช้บริการยิ่งขึ้น พร้อมรับงานผ่านเว็บไซต์ หรือทำการตลาดออนไลน์มากกว่าปกติเสริมไปด้วย ก็จะช่วยเปิดโอกาสกระตุ้นให้ธุรกิจน่าจับตามองได้
3. สร้างจุดเด่นให้เหนือกว่าคู่แข่ง
แม้ทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งหมด แต่การแข่งขันก็ยังมีอยู่ และคุณเองจะต้องไม่ลืมศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านจุดเด่น ด้านการบริการ ด้านโปรโมชั่น หรือแม้แต่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเขา การที่ธุรกิจคุณหยุดอยู่ที่เดิม นั่นคือธุรกิจกำลังรอวันล้ม การมองหาเป้าหมายใหม่ และแข่งขันอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณกระตือรือร้น และแอคทีฟตัวเองจนเป็นตัวเลือกแรกในใจของลูกค้าได้
4. มีธุรกิจสำรองเพื่อความอยู่รอด
การที่คุณลงหลักปักฐานกับธุรกิจเพียงอย่างเดียวเพื่อหวังจะทุ่มเทได้เต็มที่ให้มันประสบความสำเร็จอย่างที่ใจคิดนั้นไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ในสถานการณ์นี้ การมีแหล่งรายได้ทางเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง หากคุณพอจะมีทุนอยู่บ้างให้ลองเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ โดยมองหาช่องทางการสร้างรายได้ที่สามารถเติบโตท่ามกลางกระแสลบของโควิด-19 นี้ให้เจอ และลงมือทำทันที เช่น ธุรกิจเบียร์ชื่อดังรายหนึ่ง ที่อาจจะเคยขายเบียร์อย่างเดียว เมื่อเกิดวิกฤตนี้ขึ้นเขาได้ปรับตัวมาเปิดตลาดการลงทุนใหม่ ทั้งน้ำดื่ม สาหร่าย หรือแม้แต่ซอส เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ได้รับผลกระทบน้อย โดยเฉพาะน้ำดื่ม คนต้องการซื้อกักตุนกันอยู่แล้ว ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางรอดที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักเลยก็ได้
5. ลดค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ในทุกด้าน
ตอนนี้การจ้างพนักงานประจำอาจเป็นสิ่งที่จะยิ่งทำให้ธุรกิจคุณต้องจบลงอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีควรลดพนักงานลง ทั้งการลดตำแหน่ง ลดเงินเดือน หรือเปิดให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจ และหันมาจ้างฟรีแลนซ์แทน ซึ่งจะช่วยประหยัดไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ที่คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับอีกต่อไป แต่ยังสามารถได้รับงานที่มีประสิทธิภาพ เสร็จตรงตามเวลาได้เช่นเดิม ซึ่งการจ้างฟรีแลนซ์จะกลายเป็นเทรนด์ธุรกิจรูปแบบใหม่หลังจากนี้แน่นอน เพราะเมื่อคนหันมาใช้บริการฟรีแลนซ์ในช่วงนี้กันมากขึ้น และรู้ถึงข้อดีของการมีพนักงานที่ไม่ผูกมัดเหล่านี้มากขึ้น ก็จะทำให้เขาลดภาระการเลี้ยงดูพนักงานประจำลง และหันมาจ้างงานกับฟรีแลนซ์แทน