ธนาคารกรุงเทพ พร้อมเร่งดำเนินการสนับสนุนสินเชื่อและพักชำระหนี้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ที่มีคุณสมบัติตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอเพื่อดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงานในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยธนาคารคำนึงถึงการกระจายความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและตรงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นคำขอชุดแรกไปยังธปท. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 โดยธนาคารกรุงเทพได้เร่งดำเนินการให้ข้อมูลและรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวแก่ผู้ประกอบ SME ที่มีคุณสมบัติอย่างครบถ้วนเพียงพอโดยเร็วที่สุด พร้อมได้ยื่นคำขอสินเชื่อใหม่อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (soft loan) ชุดแรกไปยังธปท. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าผู้ประกอบการรายปลีก
โดยมาตรการสินเชื่อใหม่อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (soft loan) สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งมีสถานที่ประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย ไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET และ MAI) และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมทั้งกลุ่มกับธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือค้างชำระไม่เกิน 90 วัน (ยังไม่เป็น NPL) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เนื่องจากมาตรการต้องการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 โดยลูกค้าสามารถยื่นขอกู้ได้ไม่เกิน 20% ของยอดคงค้างสินเชื่อของลูกค้าผู้ประกอบการ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% เป็นเวลา 2 ปี โดยรัฐบาลจะจ่ายดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรกแทนผู้ประกอบการ ซึ่งธนาคารจะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะ front end fee ใดๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ธนาคารยึดแนวทางในการพิจารณาสินเชื่อดังกล่าวตามคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ลูกค้าผู้ประกอบการจะได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามมาตรการนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ความจำเป็น และจำนวนเงินที่เหมาะสมของลูกค้าเป็นสำคัญ
สำหรับมาตรการเลื่อนกำหนดหรือพักชำระหนี้ (loan payment holiday) สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมทั้งกลุ่มกับธนาคารไม่เกิน 100 ล้านบาท และมีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือค้างชำระไม่เกิน 90 วัน (ยังไม่เป็น NPL) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถได้รับสิทธิ์การพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติทุกรายเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2563 และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้ไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิตเพราะไม่ถูกรายงานเครดิตบูโรเป็น NPL เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการ มีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจต่อไป มีเงินสดในมือ เพื่อรองรับรายจ่ายจำเป็น โดยเฉพาะค่าจ้างพนักงาน ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ประกอบการที่ไม่ประสงค์รับสิทธิ์การพักชำระหนี้ดังกล่าว สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยจัดส่งหนังสือยืนยันกลับมายังธนาคาร
“ในช่วงเวลานี้ ธนาคารพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดทำงานร่วมกับลูกค้าผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดเพื่อก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน โดยให้คำปรึกษาทั้งในการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับแผนการผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ และช่วยจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าเพื่อเฝ้าระวังมิให้ลูกค้ากลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งจะกระทบต่อประวัติของลูกค้า และเป็นผลเสียต่อการขอใช้บริการสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต” นายสุวรรณ กล่าว
หากผู้ประกอบการมีข้อสงสัยประการใดสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ และขอรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคารที่ใช้บริการอยู่ หรือสอบถามข้อมูลข่าวสารได้ที่บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 0-2645-5555 หรือ https://www.bangkokbank.com/th-TH/COVID19-Update