5 หลักปฏิบัติที่ทำให้จีนเอาชนะโควิด-19 ได้


ขณะนี้มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีนซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไร้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว หลังผู้ป่วย 12 รายสุดท้ายในนครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑล ออกจากโรงพยาบาล ทำให้จีนทั้งประเทศขยับใกล้ชัยชนะในศึกสู้ไวรัสร้ายเข้าไปอีกหนึ่งก้าว จีนทำให้เกิดเรื่องราวของความสำเร็จนี้ได้อย่างไร เรารวบรวมแนวทางการปฏิบัติเพื่อชัยชนะเอาไว้ให้แล้ว

5 หลักปฏิบัติที่ทำให้จีนเอาชนะโควิด-19

“ทำทุกวิถีทางเพื่อคุมการแพร่ระบาด“

ประเทศจีนและผู้นำจีนให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนเสมอมา โดยตั้งผลประโยชน์ของประชาชนไว้เหนือสิ่งอื่นใด จึงเป็นเหตุให้จีนจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้โรคระบาดคร่าชีวิตผู้คน

“ทั้งชาติพร้อมสู้เป็นหนึ่งเดียว“

จีนได้ขับเคลื่อนคนทั้งชาติในการร่วมรบใน “สงครามของประชาชน” กับโรคระบาดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั่วประเทศมากกว่า 42,000 คน ถูกส่งมายังหูเป่ย แรงงานทั่วประเทศเร่งเดินทางมายังอู่ฮั่นเพื่อสร้างโรงพยาบาลโดยเริ่มต้นจากศูนย์ อีกทั้งทรัพยากรและสิ่งของที่จำเป็นต่างหลั่งไหลมาจากทุกทิศทาง

“เป็นกลุ่มก้อนและประสานงาน“

จีนได้จัดตั้งกลไกการบรรเทาและดูแลอย่างเป็นกลุ่มก้อน โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ทำให้คณะกรรมการพรรคฯ และบรรดารัฐบาลจากทุกระดับสามารถประสานมาตรการรับมือได้ ทั้งยังปฏิบัติตามคำสั่ง ประสานงานและกระจายงาน จากส่วนกลางได้

“สั่งปิดเมืองที่มีการระบาดหนัก“

จีนมีคำสั่งปิดเมืองอู่ฮั่นโดยปิดช่องทางขาออกตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. นาน 76 วัน จนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ประชาชนอู่ฮั่นต่างแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยและการเสียสละอย่างสูงสุด พวกเขาแยกกันอยู่แต่ในบ้านของตน ทว่ายังยืนหยัดเคียงข้างกัน

“ดูแลเด็กและผู้สูงวัย“

จีนทุ่มความพยายามทั้งหมดที่มีในการปกป้องชีวิตผู้ติดเชื้อ ทั้งผู้ป่วยผู้สูงอายุและผู้ป่วยวัยเยาว์ อัตราการรักษาหายโดยรวมของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อายุมากกว่า 80 ปี อยู่ที่เกือบร้อยละ 70 โดยมีผู้ป่วยอายุมากกว่า 100 ปี ในอู่ฮั่น ที่ได้รับการรักษาจนออกจากโรงพยาบาลได้ถึง 7 คน ซึ่งผู้ที่อายุมากที่สุดมีอายุมากถึง 108 ปี ส่วนเด็กที่ป่วยโรคโควิด-19 ทั่วประเทศที่หายดีก็มีจำนวนมากเช่นกัน โดยผู้อายุน้อยที่สุดคือทารกเพศหญิงอายุ 2 เดือน

อ้างอิง: สำนักข่าวซินหัว