ถ้าคุณต้องการเป็นกูรูด้านประสิทธิผล คุณต้องมีความมุ่งมั่นที่จะวางแผนให้ฉลาด เป็นเลิศ และมุ่งเน้นไปที่ความพยายาม และนี่คือ 17 อุปนิสัยอันชาญฉลาด ที่ Thinkbusinessplan รวบรวมไว้ และคุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อช่วยให้เสริมประสิทธิภาพให้ตัวคุณในทุกๆ วัน
1. ลงงานและเวลาในปฏิทินนัดหมายของคุณ รายการงานที่คุณต้องทำทำลายชีวิตคุณมั้ย? To-do list ที่ไม่เคยทำสำเร็จ และมักจะถูกทิ้งไป เมื่อต้องจัดการรายการงานที่มีความสำคัญมากๆ จงสร้างปฏิทินนัดหมายกับตัวคุณเอง คิดซะว่าเป็นการนัดประชุมกับตัวคุณเอง ที่ต้องให้ความสนใจอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 30 นาที หนึ่งชั่วโมง หรือ 2-3 ชั่วโมงต่อวันเกี่ยวกับโครงการหรือหน้าที่สำคัญ คุณต้องทำทุกสิ่งให้สำเร็จในช่วงเวลาที่จำกัดหรือไม่? เปล่าเลย แค่สร้างนัดหมายซ้ำจนกระทั่งงานนั้นสำเร็จลุล่วง
2. หลักการของยูนิคอร์น (The Unicorn Principle) คุณต้องเคยได้ยินหลักการของพาเรโต้ หลักการ 80/20 ที่บอกว่า 20%ของความพยายามของคุณจะสร้าง80 %ของผลลัพธ์ ในขณะที่ 80%สุดท้ายของความพยายามของคุณ จะสร้างผลผลิต 20% สุดท้ายของผลลัพธ์ของคุณ ในการตลาดออนไลน์ ความคิดของคุณแค่ 1-2 % ของก็สามารถจะไปสู่ความสำเร็จแล้ว มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า ม้ายูนิคอร์น – คอนเทนต์เจ๋งๆ โฆษณา หรือข้อเสนอที่สร้างความโดดเด่น ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ การสร้างความผูกพันที่เกิดขึ้นจากการติดตามของผู้คน (Engagement) และแปรเปลี่ยนเป็นการกระทำของกลุ่มเป้าหมาย (conversion) สิ่งที่เหลือ 98-99 % เป็นสิ่งที่เรียกว่า ลาโง่ –เนื้อหาที่น่าเบื่อ โฆษณา และข้อเสนอที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ เมื่อคุณค้นพบบางสิ่งที่ทำงานได้ดี เรียนรู้จากมัน คิดว่าทำไมมันเวิร์กและทำยังไงจะประยุกต์หลักการยูนิคอร์นเพื่อทำซ้ำความสำเร็จนั้น
3. ปรับประยุกต์ใช้คอนเทนต์ดีๆ ของคุณ การทำ Content Marketing หรือ การทำการตลาดด้วยเนื้อหา เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณค้นพบว่าคุณมีชิ้นส่วนของเนื้อหาแบบยูนิคอร์น คิดให้ออกว่าทำอย่างไรคุณจะประยุกต์ใช้ความคิดเจ๋ง ๆ แบบนั้นและแปรรูปมันเป็นเนื้อหา 10 หรือ 20 ชิ้นใหม่ๆ ได้อย่างไร ลองดูว่าคุณเผยแพร่บล็อกโพสต์ที่มีผู้เข้าชมเกินกว่า 100 วิวหรือไม่ ลองเปลี่ยนเนื้อหาจากการโพสต์นั้นเป็นบทความ วีดีโอ การสัมมนาออนไลน์ อินโฟกราฟฟิค การนำเสนอ การอัพเดตโซเชี่ยลมีเดีย และโฆษณา หรือรูปแบบใดก็ตามที่คุณจะสามารถคิดออก หยิบเนื้อหาที่โดดเด่นมาใช้งานซ้ำบนแพลตฟอร์มอื่นๆ จำไว้ว่า ถึงแม้ว่าบทความของคุณจะดีแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ถ้ามีคนอีกมากมายยังไม่เห็นมัน
4. ทำงานให้น้อย พนักงานที่มีความสุขเป็นพนักงานที่ทำงานได้ประสิทธิผลที่ดี แต่ผู้คนมากมายไม่มีความสุขกับงานของพวกเขา การทำงานแปดชั่วโมงต่อวัน บวกกับการประชุมที่ไร้ประโยชน์ ทำโอที ทำงานเหมา อีเมลที่ได้รับหลังเวลาเลิกงาน ฯลฯ บางทีมันถึงเวลาต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์เป็นว่า พนักงานต้องทำงานให้น้อย เราได้เห็นกันแล้วว่า บางบริษัทเริ่มต้นทดลองทำงานวันละ 5 ชั่วโมง เราอาจจะเห็นอะไรแบบนี้มากขึ้นในอนาคต
5. ทำงานในเวลาที่มีประสิทธิผลมากที่สุด ผู้คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จเริ่มต้นทำงานตั้งแต่ตี 4 หรือเปล่า? อืมม ไม่นะ ทำงานเมื่อคุณทำแล้วมีประสิทธิผลมากที่สุด ถ้าเป็นช่วงก่อนฟ้าจะสาง หรือหลังอาหารเที่ยง หรือแม้แต่ตอนเที่ยงคืน แค่ทำให้แน่ใจว่าคุณจะสงวนเวลานั้นๆ เพื่อทำงานได้ทุกๆ วัน แล้วคุณก็จะทำอะไรได้อีกเยอะ
6. เป็นคนผลัดวันประกันพรุ่งแบบตั้งใจ นั่นหมายความว่า ตั้งใจรอให้ใกล้ถึงเดดไลน์เสียก่อนถึงจะลงมือทำงาน การทำสิ่งต่างๆ เมื่อถึงเวลาสุดท้ายที่จะต้องทำมีประโยชน์อยู่ 2 ประการ คือ มันบังคับให้เร่งรีบและตั้งใจ การผลัดวันประกันพรุ่งทำให้เรากลายเป็นบ้างาน ประโยชน์สำคัญอีกข้อ คือ บางครั้งงานของเราเปลี่ยน กลายเป็นงานที่มีอันดับความสำคัญต่ำลง หรือหมดความสำคัญลงอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการทำอะไรอย่างสุดแรงเกิดแล้วได้รับอีเมลจากลูกค้าว่าให้เปลี่ยนทิศทางการทำงานหรือบอกเลิกงานไปเลย
7. จัดอันดับความสำคัญงานของคุณ เรารู้กันดีว่า การทำงานหลายอย่างเป็นการฆ่าสมองของคุณ แต่จะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง? การใช้ Eisenhower Matrix เป็นหนทางหนึ่งที่ใช้ได้ดีเลยทีเดียว มันช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า คุณต้องทำงานไหนให้เสร็จสิ้นเดี๋ยวนี้ งานใดต้องจัดตารางเวลาเพื่อทำมันในภายหลัง งานไหนหาคนอื่นช่วยทำ หรือลืมมันไปได้เลย
8. ปล่อยให้ผู้ช่วยจัดการงานของคุณบ้าง ต้องการความช่วยเหลือในการจัดการงานของคุณบ้างมั้ย (การประชุม การเดินทาง ฯลฯ)? คุณต้องทำอะไรบางอย่างที่คุณไม่ถนัดหรือไม่ชอบบ้างมั้ย? จ้างผู้ช่วยสิ หาใครสักคนที่ทำให้คุณมีเวลาว่างมากขึ้น เมื่อคุณมีผู้ช่วยดี ๆ สักคน คุณสามารถให้ผู้ช่วยทำงานที่คุณไม่อยากจะทำ แล้วมุ่งความสนใจไปที่งานที่จะส่งผลกระทบสำคัญ ๆ และช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต
9. อยู่ท่ามกลางคนเก่ง จิม โรห์น กล่าวไว้ว่า “คุณเป็นค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด” ถ้าคุณอยากเป็นคนที่ทำงานได้มีประสิทธิผล จงแวดล้อมตัวคุณด้วยคนฉลาด สร้างสรรค์และมีประสิทธิผล
10. หาเครื่องมือที่ช่วยทำหน้าที่ซ้ำๆ คุณอาจเบื่อหน่ายการต้องทำอะไรซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลา ลองมองหาเครื่องมือที่จะทำมันแทนตัวคุณ ถ้าคุณจะหาซื้อเครื่องมือโดยใช้หลักการยูนิคอร์น และคุณพุ่งความสนใจไปที่ 1-2 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่จะสร้างผลกระทบได้มากที่สุด นอกนั้นคุณต้องใช้เครื่องมือช่วยจัดการกับอีก 98-99 เปอร์เซ็นต์
11. ใช้แอปเพื่อเพิ่มประสิทธิผล ถ้าคุณต้องการจัดการการเดินทาง จัดการบัญชีโซเชียลมีเดีย การลงโฆษณา หรือ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ มีแอปมากมายที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลให้คุณได้
12. ใช้คีย์ลัดบนคีย์บอร์ด คีย์ลัดช่วยลดเวลาการทำงาน ที่จะกลายเป็นเวลาเพิ่มประสิทธิผลในการทำงานให้กับคุณ คุณสามารถหาข้อมูลได้จากบทความทางอินเตอร์เน็ต เช่น 60 คีย์ลัดสำหรับวินโดวส์ แมค โปรแกรมไมโครซอฟท์ ฯลฯ นี่จะช่วยให้คุณเป็นยูนิคอร์นในออฟฟิศที่เต็มไปด้วยลา
13. ใช้งานอีเมลอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องการเขียนอีเมลที่แม่นยำใช่หรือไม่? ลองดูคำแนะนำจาก Kabir Sehgal ดูสิ
-ใช้คีย์เวิร์ดในชื่อหัวข้ออีเมล
-ใส่ข้อสรุปสั้นๆ ลงไปด้วย ที่สามารถอธิบายวัตถุประสงค์ของอีเมล (ใคร ทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม และอย่างไร) และใส่การกระทำที่อยากให้ผู้รับอีเมลทำเพื่อตอบกลับ
-เขียนให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
-เลิกใช้ passive voice
14. ทำสิ่งที่คุณชอบให้มากๆ งานอดิเรกเป็นสิ่งสำคัญ การทำงานโดยไม่หยุดหย่อนเป็นหนทางที่เผาพลาญพลัง จงหางานอดิเรก หรือเวลาว่างที่จะให้สมองคุณหยุดพักบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือเล่นเครื่องดนตรี ปล่อยตัวคุณไปกับสิ่งที่คุณรัก เมื่อถึงเวลาทำงานคุณจะทำมันได้ดีขึ้น
15. เลิกสนใจดูการแข่งกีฬา เหมือนกับการดูข่าว จงเลิกสนใจกีฬา ทำไมล่ะ? เพราะเราควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ สิ่งที่เราสามารถทำได้คือสิ่งที่เราสามารถสร้างผลกระทบกับมันได้ อย่าไปเสียเวลาหลายๆ ชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์เพื่ออภิปรายโต้เถียง อ่าน คิด หรือดูเกมกีฬา ถ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากพอ มันจะเป็นที่รู้จักเอง
16. หลีกเลี่ยงการบ่น การบ่นเป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับคุณ เรารู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร มันเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วมันยังเสียเวลาอีก อย่างที่ Eleanor Roosevelt กล่าวไว้ว่า “จิตใจที่ยิ่งใหญ่ ถกเพียงกันเรื่องความคิด , จิตใจที่ทั่วๆ ไปถกเถียงเรื่องเหตุการณ์ จิตใจคับแคบถกเถียงเรื่องผู้คน จงอย่าเป็นแหล่งของพลังลบในที่ทำงาน ไม่ใช่แค่มันจะลดประสิทธิผลการทำงานของคุณ แต่มันจะกระจายไปรอบๆ คุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กับผู้ร่วมงาน กับลูกค้าและผู้ที่หวังจะได้เป็นลูกค้า
17. เลิกทำงาน ใช่ คุณไม่ควรทำแบบนี้ทุกวัน แต่ถ้าคุณพบว่าประสิทธิภาพในการทำงานลดลง อาจจะเพราะคุณไม่มีความสุขกับงานของคุณ ถ้าคุณประสบความสำเร็จทุกอย่างที่คุณทำได้แล้ว สูญเสียความปรารถนา หรือรู้สึกสบายเกินไป มันถึงเวลาที่คุณจะเลิกทำงานนี้แล้ว
ที่มา : thinkbusinessplan.com
