หนุ่ม-สาวออฟฟิศ ที่ต้องเผชิญความกดดันจากการทำงานร่วมกันของคนหลากหลายประเภทในองค์กร หรือ บริษัทมานาน ๆ อาจจะกำลังคิดอยากจะเปลี่ยนตัวเองจากพนักงานประจำมาเป็นอาชีพสุดฮิตอย่าง ฟรีแลนซ์ แต่ทราบหรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกับคุณ แล้วการเป็น “วิถีฟรีแลนซ์ ” แบบมืออาชีพ ต้องทำยังไง
ลองอ่านวิธีดูแลตัวเองเพื่อเป็นฟรีแลนซ์ที่มีงานและรายได้ระดับสูง กันดีกว่า
1. บริหารจัดการงานของลูกค้า
ฟรีแลนซ์ตัวพ่อ จะมีความสามารถในการบริการจัดการกับงานของลูกค้าที่รับเข้ามาได้อย่างฉลาด เขาจะต้องรู้ว่างานไหนควรจะทำก่อนและทำหลัง งานไหนควรจะทุ่มเวลาให้มากกว่า เรียกได้ว่าต้องมีศาสตร์และศิลป์ในการตัดสินใจเลือกรับงานและแบ่งเวลาทำงาน ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับคุณภาพของงานได้ด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่าใครที่จะมาเป็นฟรีแลนซ์จะต้องรู้จักจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสและภัยคุกคาม ของตัวเองได้เป็นอย่างดี จึงจะเติบโตในงานสายนี้ได้
2. ปรับปรุงและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
ฟรีแลนซ์ที่ประสบความสำเร็จจะตระหนักถึงความจำเป็นของการปรับปรุงและพัฒนาทักษะของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะในปัจจุบันทักษะต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากไม่อยากล้าหลังก็ต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการของตลาด และข้อมูลจากการสำรวจของบริษัทจัดหางานชั้นนำต่างก็ระบุว่า ฟรีแลนซ์ต่างยอมรับว่าพวกเขาจะต้องปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง และต้องทำงานหนักว่าบรรดาพนักงานประจำ เพราะพวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ลูกค้าเห็นว่าตัวเขาเหมาะกับงานที่ลูกค้าต้องการ
3. จัดการความสัมพันธ์และการสร้างเครือข่าย
ฟรีแลนซ์ตัวพ่อส่วนใหญ่จะมีเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง พวกเขาจัดการความสัมพันธ์แบบ 360 องศากับลูกค้าและเพื่อนร่วมงานที่พวกเขาทำงานด้วย แน่นอนว่าระหว่างฟรีแลนซ์ด้วยกันเองก็เป็นเครือข่ายที่สำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้จะคอยให้การสนับสนุนช่วยเหลือและทำงานร่วมกัน ฟรีแลนซ์มืออาชีพจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่มที่พวกเขาเลือกหมวดหมู่เอาไว้แล้ว จากนั้นจึงเลือกลงทุนที่จะสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มเครือข่ายที่เขาต้องการ
4. วินัยในการดำเนินโครงการ
ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพอิสระนั้น อยู่ที่แต่ละคนนั้นสามารถตอบสนองความคาดหวังในการปฏิบัติงานได้ดีและสม่ำเสมอเพียงใด สำหรับมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินโครงการที่แข็งแกร่ง ซึ่งประกอบไปด้วย การระบุที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด วิธีการใช้เวลาและทรัพยากรที่มีให้คุ้มค่า มีความรับผิดชอบในผลลัพธ์และสามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง
5. ต้องมีความคิดสร้างสรรค์
ฟรีแลนซ์ชั้นนำมีความคิดสร้างสรรค์ และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขามักจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ในขณะที่ความคิดสร้างสรรค์จุดประกายสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือวิธีการทำงานใหม่ๆ ฟรีแลนซ์มืออาชีพมักจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการรวมความคิดสร้างสรรค์เข้ากับทักษะการแก้ปัญหา เพื่อนำเสนอแนวคิดที่เป็นไปได้ที่น่าสนใจให้กลายเป็นโซลูชั่นที่ใช้งานได้จริง
6. การประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมา
ทักษะการเป็นฟรีแลนซ์ตัวพ่อประการสุดท้ายคือการประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมา นั่นคือต้องทบทวนการทำงานและโอกาสที่เข้ามาของพวกเขาทุกครั้ง การประเมินตนเองที่มีประสิทธิภาพมักเกี่ยวข้องกับการยอมรับคำแนะนำผ่านมุมมองของผู้อื่น เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองต่อไปให้สามารถอยู่ในวงการนี้ได้นานๆ