ด้วยวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค และการทำธุรกิจ จนทำให้หลายสิ่งกลายเป็น New Normal จากการใช้ดิจิทัลมากขึ้นทั้งในแง่ของไลฟ์สไตล์ และการทำงาน
หากมองในภาพกว้าง คาดการณ์ว่าโลกตะวันออก หรือเอเชีย จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกในอนาคต นั่นแปลว่าสินค้าไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพจะมีโอกาสเติบโตอีกมาก เมื่อวิกฤติโควิด-19 จบลง ส่วนแนวทางการปรับตัวสู่ความประสบความสำเร็จ Smart SME x Krungsri ได้สรุปทิศทางการวางแผน เพื่อเตรียมตัว Take Off ธุรกิจ ไว้ดังนี้
การบริหารความเสี่ยง ต้องมีความยืดหยุ่นสูง
เพราะการบริหารความเสี่ยงจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอดได้อย่างยืดยาว แต่ขณะเดียวกันการไม่เสี่ยงทำอะไรเลยก็จะทำให้ธุรกิจแย่ยิ่งกว่า ดังนั้นผู้ประกอบการควรบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยความยืดหยุ่นอย่างรอบคอบ และมั่นใจ เช่น เรื่องการผลิตจากเดิมอาจจะทำเองทำหมด อาจเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มีเทคโนโลยี และเครื่องจักรที่ทันสมัยเข้ามาช่วย ด้านการสต็อกวัตถุดิบ หรือสินค้า ก็อาจสต็อกเท่าที่จำเป็นก็พอ นอกจากนี้การปรับใช้ Gig Worker หรือคนทำงานฟรีแลนซ์เข้ามาช่วยทำงานโปรเจกต์ระยะสั้น ก็จะช่วยลดทั้งต้นทุน และสร้างสภาพคล่องทางการเงินที่ดีได้
ปรับรูปแบบธุรกิจให้เชื่อมโยงการทำงานผ่านดิจิทัลได้มากที่สุด
แม้ในอนาคต โลกเราจะค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แต่การจะก้าวต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการต้องเตรียมปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเอื้อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ แม้ไม่เจอหน้ากัน และเพื่อรับมือกับพฤติกรรมผู้คนที่เปลี่ยนไปเป็น Next Normal ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวแล้ว ยังช่วยให้เกิดการ Work Smart ทั้งประหยัดต้นทุนให้กับบริษัท และพนักงานได้อีกด้วย
ธุรกิจที่มีหน้าร้าน ต้องปรับตัวมาทำตลาดแบบ Omni Channel
แม้จะบอกว่าดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการสั่งซื้อออนไลน์ของสินค้ากลุ่ม Grocery ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่สำหรับหลายธุรกิจที่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน อย่างธุรกิจท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านสปา โรงแรมห้องพัก ฯลฯ การผสานช่องทางการขายของทั้งออฟไลน์ และออนไลน์เข้าไว้ด้วยอย่างไร้รอยต่อแบบ Omni Channel ก็จะเป็นอีกวิธีสร้างโอกาสที่ยั่งยืนได้ ซึ่งในแง่ของการให้บริการ ผู้ประกอบการต้องมองถึงการเชื่อมโยงหลายๆ แพล็ตฟอร์มเข้าไว้ด้วยกัน เช่น ธุรกิจอาหาร ต้องเร่งสร้างแพลตฟอร์มทางออนไลน์ของตนเองขึ้นมา และเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในแพล็ตฟอร์มอื่นๆ เช่น Grab, Line Man, Food Panda แต่ยังไม่พอ เพราะต้องสร้างระบบการจัดการภายในร้านให้ดีด้วย เพื่อสามารถตอบสนองการเดลิเวอรี่ไปสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการรองรับการจ่ายผ่านระบบ e-Payment ในทุกๆ รูปแบบ ก็เป็นสิ่งสำคัญมากไม่แพ้กัน
นอกจากนั้น เรื่องการปกป้องลูกค้า ก็เป็นโจทย์ใหญ่ของการให้บริการผ่านหน้าร้านเช่นกัน SME จึงต้องมีมาตรการด้านสุขอนามัย ทั้งต่อพนักงาน และลูกค้า เช่น ในร้านตัดผม เราจะสร้างระบบคิวยังไง ให้ลูกค้าหมุนเวียนมาใช้บริการได้โดยไม่ต้องนั่งรอภายในร้าน ขณะเดียวกันก็ต้องไม่พลาดโอกาสรับลูกค้าที่มาใหม่ หรือมาโดยไม่ได้นัดหมายด้วย แล้วตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน จนเดินออก เราจะสร้างมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยยังไงบ้าง ให้เค้ารู้สึกอุ่นใจ จนกลายเป็น Royalthy ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ต้องรีบคิดอย่างรอบคอบตั้งแต่ตอนนี้
คาดการณ์ตลาดล่วงหน้าอย่างแม่นยำ ด้วยข้อมูล Data
ในอนาคต การเชื่อมโยงด้วยฐานข้อมูลคือสิ่งที่มีค่ายิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ ด้วยปัจจุบันการค้าแคบลงจากการเติบโตทางเทคโนโลยี บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนตัว เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย และเพื่อความบันเทิงมากขึ้น เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย การสั่งอาหารผ่านแอป การดูคอนเทนต์ เกมออนไลน์ ฯลฯ โดยเฉพาะฐานข้อมูลของยูสเซอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้การทำ Personalized อย่างละเอียด เพื่อออกแบบคอนเทนต์ หรือแคมเปญไปสู่ลูกค้า ง่ายดายยิ่งขึ้น
เช่น การนำข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าประจำ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ความชอบ มูลค่าที่ซื้อต่อครั้ง สินค้าที่ซื้อบ่อย มาออกแบบโปรโมชั่น หรือแคมเปญ ให้เฉพาะเค้าเท่านั้น
สำหรับ SME ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจให้มีความเชี่ยวชาญเรื่อง Data แต่ยังไม่มีเงินทุนในตอนนี้ แนะนำให้มองหาสินเชื่อที่ดอกเบี้ยต่ำสุด 5% ต่อปีใน 2 ปีแรก ระยะเวลาการผ่อนจ่ายนานกว่า 10 ปี ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการต่อยอดโอกาสจากการใช้ Data ได้ทันท่วงที และยังไม่เสียสภาพคล่องทางการเงินอีกด้วย
Creative จะกลายเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจคุณให้เหนือคู่แข่งขัน
ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะขับเคลื่อนการใช้ Data ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นั่นเพราะความคิดสร้างสรรค์ เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ช่วยยกระดับธุรกิจให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งขันได้ในยุคที่สินค้า และบริการมีความคล้ายคลึงกันเต็มไปหมด ดังนั้น นอกจากการพัฒนาสินค้า-บริการให้ดีแล้ว การสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดให้กระทบกับ Emotional ผ่านวิธีการนำเสนอใหม่ๆ ก็เป็นอีกวิธีที่จะขยายฐานลูกค้าให้เติบโตไปได้ ทั้งยังสามารถนำมาปรับใช้การสร้างแคมเปญการตลาดรูปแบบต่างๆ เพื่อสื่อสารอย่างตรงจุด โดนใจ และยั่งยืน
ยกตัวอย่างการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของธุรกิจรายเล็กๆ ที่ไม่ได้ซับซ้อนมากอย่างแบรนด์ ‘ดินคุณตา’ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว เริ่มทำเมื่อช่วงต้นปี 2563 พร้อมๆ กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความน่าสนใจของธุรกิจนี้ นอกจากจะนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมดินเพาะปลูกเพื่อผักปลอดสารแล้ว การสร้าง Storytelling ได้ถูกจังหวะเวลา และนำเสนอได้อย่างตรงจุดก็ถือเป็นอีกความน่าสนใจ เพราะแน่นอนว่าช่วงนี้ ทุกคนก็ต่างต้องการอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนใครที่ทำงานอยู่บ้าน กิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ไปจนถึงการทำสวนขนาดเล็ก เพื่อทำอาหารกินเอง
สนับสนุนการสร้างสรรค์เนื้อหาโดย Smart SME x Krungsri เพื่อ SME เติบโต และต่อยอด อย่างยั่งยืน