5 เทรนด์ที่จะทำให้ธุรกิจคุณรอดตาย แถมได้มาอยู่ระดับแถวหน้า


จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้การปรับตัวเกิดขึ้นกับแทบจะทุกธุรกิจแล้ว เพราะการเข้ามาของอินเทอร์เน็ต และนวัตกรรมต่าง ๆ ทำให้คนที่ไม่ยอมปรับตัว หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองช้าเกินไป มีโอกาสที่จะถูกกลืนหายไปได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งผู้ที่ทำธุรกิจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอะไรก็ตาม จึงควรที่จะนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เสริมใส่เข้าไปในระบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค สร้างความเรียบง่าย รวดเร็ว และสะดวกสบาย ด้วย 5 เทรนด์ที่จะทำให้ธุรกิจรอดตาย เหล่านี้

1. ใช้วิดีโอในการเข้าถึง

ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรูปแบบธุรกิจ การสอนถึงวิธีการใช้งาน การเสนอข้อดีของผลิตภัณฑ์ ทุกอย่างถ้าเราสามารถจับมาใส่ในรูปแบบวิดีโอได้ จะช่วยเพิ่มความเข้าใจ และความน่าสนใจให้กับคอนเทนต์อย่างมาก ซึ่งเรื่องของวิดีโอนั้นเป็นสิ่งที่กระแสโลกกำลังให้ความสนใจ ทั้ง Facebook ทั้ง YouTube รวมถึงแพลตฟอมร์มต่าง ๆ ทั่วโลก และที่สำคัญเดี๋ยวนี้อินเทอร์เน็ตมือถือก็ปล่อยโปรโมชั่นเพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการบริโภคคอนเทนต์วิดีโอมากขึ้น ใช้เน็ตได้เยอะขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะสนใจในการดูวิดีโอเป็นหลักมากกว่าในสมัยก่อนนั่นเอง

2. ใช้ AI Chatbot เพื่อบริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว

เทรนด์ต่อมาที่จะครองโลกในอนาคตอันใกล้ก็คือ เรื่องของ AI Chatbot ปัญญาประดิษฐ์ที่จะสามารถช่วยให้เราตอบคำถามลูกค้าได้อย่างง่ายดาย สบาย และไม่เปลืองเวลา หลาย ๆ ธุรกิจในปัจจุบันก็เริ่มใช้งานเจ้าตัวนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแค่ขั้นต้นที่ช่วยเราตอบคำถามลูกค้าก็ดูเหมือนจะสบายแรงเรามากขึ้นแล้ว

แต่ในอนาคต AI Chatbot จะยังคงถูกพัฒนาให้สามารถเพิ่มการขาย แนะนำสินค้าที่ลูกค้าต้องการ และเหมาะสมได้อย่างตรงเป้า เรียกได้ว่าอัพเซลกันเก่งยิ่งกว่าคนจริง ๆ เสียอีก

3. ใช้งาน Big Data ให้เกิดประโยชน์

เรื่องของ Big Data เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัททั้งหลายกำลังทำ นั่นก็คือ เก็บรวบรวมทุกตัวเลข ทุกสถิติ ทั้งข้อมูล ยอดขาย และตัวแปรต่าง ๆ ในการทำธุรกิจ เพื่อวิเคราะห์ถึงการพัฒนาในอนาคตว่าจะดำเนินการต่อไปในรูปแบบไหน

อย่างไรดี ซึ่งถ้าจะให้ดี การใช้ Big Data ให้เหมาะสมจริงๆ คือ ควรเริ่มต้นจากผลลัพธ์ที่ต้องการ และค่อยๆ ย้อนกลับไปถึงวิธีการที่จะนำมาซึ่งผลลัพธ์นั้น โดย Big Data เหล่านี้จะเป็นเหมือนคำใบ้ที่ช่วยให้เราเข้าใกล้ลความสำเร็จได้ เหมือนคำพูดที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

4. ลงทุนกับคนควบคู่ไปกับอุปกรณ์

นอกจากนวัตกรรมที่ดีจะช่วยให้องค์กรนำหน้าได้แล้ว ก็ต้องมีคนที่คอยใช้งานอุปกรณ์นวัตกรรมเหล่านั้นกันด้วยนะครับ หลายที่พยายามลงทุนกับสิ่งประดิษฐ์ที่ตอบโจทย์ต่าง ๆ แต่ลืมฝึกคนให้สามารถใช้งานสิ่งเหล่านั้น หรือนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้เป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์

5. มีแผนที่สู่ความสำเร็จที่ชัดเจน

ก่อนการตัดสินใจซื้อนวัตกรรม หรือเปลี่ยนแผนในการบริหารองค์กร ควรจะมีแผนที่สู่ความสำเร็จที่ชัดเจน ทุกคนในทีมต้องเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็วในทิศทางเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ที่หลาย ๆ องค์กรมองข้าม การเรียกพนักงานมาอบรม ชี้เป้า ให้เห็นถึงก้าวที่เราจะไป จะทำให้เค้าเข้าใจในรูปแบบวัฒนธรรมของเรามากขึ้นว่าควรจะวางตัวยังไง ช่วยปลุกไฟในการทำงาน และพาธุรกิจให้ก้าวเดินไปพร้อม ๆ กันได้อย่างเป็นระบบ