ทิสโก้เวลธ์ชี้มีธุรกิจที่ผลประกอบการเติบโตสวนกระแสตลาดหุ้นที่กำลังตกทั่วโลก และล้วนแต่เป็นธุรกิจที่ได้รับผลโดยตรงจาก New Normal จากการเกิดการระบาดของโควิด-19 นอกจากนั้นยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจนกลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลกอีกด้วย
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) โดยผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500 ลดลงถึง 7.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจกลับพบว่ายังมี 3 กลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะกลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นคือ E-commerce, Digital Healthcare และ Edutainment ซึ่งข้อมูลมาจากการที่กองทุน ETF ที่เข้าไปลงทุนในหุ้นของบริษัทเหล่านี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ 3 กลุ่มธุรกิจข้างต้นเติบโตได้ดี แม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจนั้นมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม
E-commerce
โดยกลุ่มที่ได้ผลเชิงบวกมากที่สุดคือ กลุ่ม E-commerce เนื่องจากได้ประโยชน์จากมาตรการ Lockdown ที่หนุนให้ผู้บริโภคต้องสั่งซื้อสินค้า หรือใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน โดยตัวอย่างของบริษัทที่เติบโตอย่างโดดเด่น คือ บริษัท Netflix ที่ประกาศผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเติบโตกว่า 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และบริษัท Chegg ผู้ให้บริการ เช่า, ซื้อ-ขาย หนังสือเรียนออนไลน์ ที่รายได้ไตรมาส 1/2563 เติบโตถึง 35% YoY และมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 35% YoY
Digital Healthcare
ขณะที่กลุ่ม Digital Healthcare ก็ได้รับประโยชน์จากความต้องการนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เกิดโควิด-19 เช่น การพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผู้นำตลาดอย่างบริษัท Teledoc ประกาศว่าในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้เข้าใช้บริการกว่า 2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นราว 92% จากปีก่อนหน้า และบริษัท Moderna ธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมไบโอเทคการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขั้นที่ 2 ในมนุษย์และมีแนวโน้มที่สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสได้ดี
Edutainment
กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่ม Edutainment ได้รับผลบวกจากการที่โควิด-19 แพร่ระบาดส่งผลให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้นจากเดิมที่ธุรกิจนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตที่สูงอยู่แล้ว เช่น บริษัท GSX ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียนพิเศษออนไลน์ในประเทศจีน ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทเติบโตกว่า 300%
การที่รายได้ และกำไรรวมถึงราคาหุ้นของธุรกิจ E-commerce, Digital Healthcare และ Edutainment ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับธุรกิจอื่น ๆ นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องเกินความคาดหมายของทิสโก้เวลธ์ เพราะได้เริ่มนำเสนอมุมมองการลงทุนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
โดยมองว่าธุรกิจในเมกะเทรนด์ของโลกจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว และผลประกอบการไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรและรายได้ของธุรกิจเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภค
อ้างอิง: ทิสโก้เวลธ์