3 อันดับ “เลิกกิจการ” มากสุด อสังหาฯ-ร้านอาหาร อ่วมหนัก


กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานสถานการณ์การจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนเมษายน 2563 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยถึงยอดการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนเมษายน 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ผลการจดทะเบียนธุรกิจ

จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือนเมษายน 2563 จำนวน 3,996 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 9,012 ล้านบาท

ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 471 ราย คิดเป็นร้อยละ 12

รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 169 ราย คิดเป็นร้อยละ 4

และอันดับ 3 คือ ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 127 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ

 

 

 

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายน 2563

จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนเมษายน 2563 มีจำนวน 817 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 3,785 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

– ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 79 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 45 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร/ ร้านอาหาร จำนวน 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 ตามลำดับ

– ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 567 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.40 รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 209 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.58 ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.29 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.73 ตามลำดับ

 

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนเมษายน 2563

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เม.ย. 63)

ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน765,345 ราย มูลค่าทุน 18.63 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น

ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 187,774 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.53

บริษัทจำกัด จำนวน 576,306 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.30

และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,265 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ตามลำดับ