รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ Rodrigo Duterte ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์หาวิธีลดความแออัดในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศที่ในช่วงเวลาไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาได้กลายเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นมากที่สุดในโลก
Rodrigo Duterte เสนอที่จะให้เงินสด และสินค้าจำนวนหนึ่ง เพื่อจูงใจผู้คนในเมืองหลวงกลับไปยังจังหวัดภูมิลำเนาผ่านโครงการ “Back to the Province” ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษเชิญชวนให้ชาวฟิลิปินส์กลับไปยังชนบท โดยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เผยให้เห็นถึงการเติบโตของประชากร, การคมนาคมที่เป็นปัญหา, บริการด้านสาธารณูปโภค และสุขภาพที่ยังไม่เพียงพอ เหล่านี้จึงทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนงานที่จะเคลื่อนย้ายประชากรในระยะยาว
Joel Gortina ช่างไฟฟ้าอายุ 38 ปี กล่าวว่าตนต้องการกลับไปยังเมือง Cebu หลังจากเข้ามาเรียน และทำงานในกรุงมะนิลามาเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยงานลดลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งตอนแรกตนวางแผนที่จะเดินทางออกจากกรุงมะนิลาในช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่ก็มีมาตรการล็อกดาวน์ออกมาจึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้
“ผมไม่มีงาน และไม่มีเงิน ผมต้องถูกให้ออกจากงาน นี่เป็นช่วงเวลาที่วิกฤติ” Joel Gortina กล่าว
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานของฟิลิปปินส์ (ณ วันที่ 24 เมษายน 2020) ระบุว่ามีคนตกงานมากกว่า 2 ล้านคนในฟิลิปปินส์ โดย 1 ใน 3 อาศัยอยู่ในกรุงมะนิลา สำหรับในเมืองหลวงมีประชากรหนาแน่นมากกว่า 13 ล้านคน และ 2 ใน 3 ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเศรษฐกิจที่หดตัวมากที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ จึงคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ว่างงานจะสูงขึ้นอีก ดังนั้น ผู้คนจึงมองหาการดำเนินชีวิตใหม่
ด้าน Marcelino Escalada ผู้อำนวยการโครงการ Back to the Province กล่าวว่า มะนิลาเดินทางมาจุดสูงสุดแล้ว การย้ายเข้ามาในเมืองหลวง อาจจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าสมัครโครงการ Back to the Province จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 110,000 เปโซ (ประมาณ 69,000 บาท) ผ่านรูปแบบของเงินสด และสินค้ายังชีพ
ที่มา:bloomberg