จับตาเทรนด์ “Travel Bubble” มีประเทศไหนจับคู่เดินทางหากันแล้วบ้าง


ช่วงนี้จะเห็นว่ามีการพูดถึงกันเรื่อง “Travel Bubble” หรือแนวทางการเปิดการท่องเที่ยวอย่างจำกัด ซึ่งเป็นการจับคู่กันระหว่างประเทศให้สามารถเดินไปมาหากันได้

สำหรับ “Travel Bubble” เป็นโมเดลจับคู่กันระหว่างสองประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอัตราเท่ากัน โดยผู้เดินทางต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน เช่น มาตรการตรวจเชื้ออย่างเข้มงวดทั้งก่อน และหลัง แต่ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งแนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อที่จะฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง

ในตอนนี้มีหลายประเทศที่เริ่มจับคู่เดินทางแบบ “Travel Bubble” กันบ้างแล้ว เช่น สิงคโปร์กับจีนทำ Travel bubbles นักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน แต่ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโดยออกค่าใช้จ่ายเอง และหากพบเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยออกค่าใช้จ่ายเองเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมีแผนที่จะผ่อนคลายมาตรการเดินให้กับนักธุรกิจ 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ไทย และเวียดนาม สามารถเดินทางเข้ามาญี่ปุ่นได้จำกัดโควตา 250 คนต่อวัน

เช่นเดียวกับจีนที่จับคู่เดินทางกับเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า โดยให้ผู้ที่มีหนังสือเดินทางสามารถเดินทางไปใน 10 ภูมิภาคของจีน

ผู้ถือหนังสือเดินทางจากกลุ่มประเทศหรือดินแดนที่จีนจับคู่เดินทางสามารถเดินทางได้ภายใน 10 ภูมิภาคของจีน

ส่วนประเทศในยุโรปก็เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ เปิดพรมแดนระหว่างประเทศให้มีการเดินทางระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรป รวมถึงอังกฤษ, สเปน พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม, เยอรมนีจับคู่กับออสเตรีย เปิดพรมแดนให้เดินทางระหว่างกัน เริ่ม 15 มิถุนายน นี้, ออสเตรเลียมีแผนจับมือทำ Travel Bubble กับนิวซีแลนด์

ด้านประเทศไทย ก็มีการพูดถึงการทำ Travel Bubble เช่นกัน โดยที่ประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดประเทศท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ “Travel Bubble” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะให้นักธุรกิจ และกลุ่มที่มารับบริการตรวจรักษาทางการแพทย์ จากจีน ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สปป.ลาว ประเทศตะวันออกกลาง เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ซึ่งจะต้องมีการเสนอรายละเอียดในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน