ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาทำให้พฤติกรรมหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป จนเกิดคำว่า New Normal และ Next Normal สำหรับใครที่สงสัยว่าต่างกันยังไง มาดูกันเลย
“New Normal” หรือ “ความปกติแบบใหม่” หมายถึง สถานการณ์ พฤติกรรม การปฏิบัติต่างๆที่เราไม่คุ้นเคย แต่กลายมาเป็นมาตรฐานปกติในปัจจุบันนั้น เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงหลายอย่างรอบตัวเรา ซึ่ง New Normal จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจครั้งใหญ่ การจัดการบางอย่าง ซึ่งแต่เดิมเคยถูกมองว่าผิดปกติ ได้กลับกลายมาเป็นสิ่งที่พบเห็นกันได้ทั่วไป เช่น
1. การซื้อขายออนไลน์จะเติบโตขึ้น เพราะวิกฤติบังคับให้ผู้บริโภคต้องเดินข้ามกำแพงแห่งความเคยชิน ในการจับจ่าย เทคโนโลยีจะเชื่อมให้ผู้ผลิตต้นทางติดต่อได้โดยตรงกับผู้ซื้อปลายทาง พ่อค้าคนกลางจะถูกลดบทบาทความสำคัญลง แต่แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์และการส่งสินค้าจะเติบโตขึ้น จนกลายเป็นพฤติกรรมที่ติดตัวผู้บริโภคต่อไป
2. ธุรกิจเดลิเวอรี่ เติบโตตามมา เพราะคนไม่สามารถออกนอกบ้านได้ จึงใช้ เดลิเวอรี่ มากขึ้น ทั้งการซื้อสินค้าและอาหาร การขยายพื้นที่การส่งสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ถือเป็นโอกาสเหมาะ
3. สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะผู้บริโภคกลัวการหยิบจับเงินสดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค จึงหันมาใช้ช่องทางดิจิทัลแทน อาทิ การจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด บัตรเครดิต e-wallet
4. ยุคของการใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า หลังจากจบโควิด-19 ธุรกิจต่างๆ จะเรียนรู้และต่อยอดการใช้ Big Data มากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคจะมีความต้องการ “ดาต้า” ที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง และจะเปิดรับข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
5. ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เทรนด์ดูแลสุขภาพและสุขอนามัยที่จะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค
6. การรักษาระยะห่างทางสังคมจะยังคงอยู่ต่อไป หลังจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคยังเป็นรูปแบบ Individual Consumption เห็นได้ว่าร้านอาหารต่าง ๆ สุกี้ ชาบูได้เริ่มปรับตัว จัดพื้นที่แบบเว้นระยะห่างเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าไปใช้บริการได้
7. ตื่นตัวเตรียมพร้อมรับวิกฤติ สถานการณ์โควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หลังจากนี้จะเห็นผู้บริโภคปรับตัวให้พร้อม การเวิร์คช็อปเสริมทักษะหลากหลาย เพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต
“Next Normal” หรือ “วิถีธุรกิจในยุคใหม่” คือบริบทการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ของผู้คนในสังคม ความพร้อมที่จะก้าวไปกับความปกติใหม่ โดยประกอบด้วยวิธีคิด วิธีเรียนรู้ วิธีสื่อสาร วิธีปฏิบัติและการจัดการ ซึ่งธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่คุ้นชินและถูกบังคับให้ปรับตัวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย Next Normal จะเอื้ออำนวยต่อผู้ที่พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง
1. อีคอมเมิร์ซ เดลิเวอรี่ สังคมไร้เงินสด และระบบการขายสินค้าแบบอัตโนมัติจะขยายตัวมากขึ้น พร้อมการขับเคลื่อนการพัฒนาแพล็ตฟอร์ม Delivery ให้กลับมาเติบโตรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่หันกลับมาซื้อของออนไลน์ ซึ่งการเกิดใหม่ของแพล็ตฟอร์มเดลิเวอรี่ จะมีผู้เล่นรายใหม่ปรับธุรกิจเพื่อชิงส่วนแบ่งของตลาดนี้มากขึ้น
2. Hospitality Service การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการแพทย์ผ่านระบบโทรคมนาคม โดยเฉพาะการนาเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาใช้ในการดูแลสุขภาพ จะได้รับความนิยมมากขึ้น
3. Education and people reskill การเรียนออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่ต้องทำแต่ตั้งนักเรียนประถมจนถึงมหาวิทยาลัย รวมถึงการ Reskill ของคนวัยทำงาน ที่สามารถเรียนรู้จากกูรูระดับโลกได้ทันทีด้วยโอกาสและต้นทุนที่เข้าถึงได้
4. Work force รูปแบบ Work From Home จะเป็นแนวคิดการทำงานที่ยังอยู่ต่อไป และจะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยสนับสนุนการทำงาน องค์กรต่างๆจะลดต้นทุนเรื่องสถานที่ทำงาน ส่วนคนทำงานจะลดค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง
5. Rise of Machine บทบาทของคนในองค์กรจะลดลง การใช้เครื่องมือดิจิทัล Robotic หรือระบบจะได้รับความนิยมมากขึ้น
6. Share Services ธุรกิจจะหันมาโฟกัสเฉพาะ Core Business เท่านั้น เพื่อคล่องตัวต่อการแข่งขัน งานหลังบ้าน เช่น ธุรการ บัญชี การเงิน จะหันมาใช้บริการ Out Source หรือการ Share Service เพื่อลดต้นทุนในการจ้าง ส่วนการใช้โปรแกรมจัดการธุรกิจบนคลาวด์ที่มีบริการผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล จะช่วยประหยัดต้นทุนธุรกิจได้มาก
7. Cyber Security คนจะยอมสละความเป็นส่วนตัวและยอมเปิดเผยข้อมูลเพื่อการติดตามพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคและได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ การรักษาความปลอดภัยของระบบงานจะเป็นธุรกิจที่เติบโต ทั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดและทำให้ไม่เกิดการใช้ข้อมูลอย่างไม่ถูกต้อง
ส่วนใครที่อยากได้ไอเดีย และโซลูชั่นใหม่ๆมาพัฒนาธุรกิจไปพร้อมกับ New Normal และ Next Normal พบกันได้ที่งาน Smart SME Expo 2020 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย #รวมสุดยอดธุรกิจNextNormal อีเวนท์ใหญ่ของคนรักการทำธุรกิจ จัดติดต่อกันเป็นปีที่ 6 วันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ณ ฮอลล์ 9 – 10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับธุรกิจไหนที่มีโซลูชั่นเพื่อ SMEs สามารถมาร่วมออกบูธได้
ติดต่อ 086 314 1482
E-Mail : [email protected]
https://expo.smartsme.co.th
