บทเรียนที่ไม่มีสอน เมื่อ Facebook ถูกแบรนด์ดังหยุดซื้อโฆษณา เพราะ “Hatespeech”


เป็นที่ทราบกันดีว่าพลังของสื่อโซเชียลมีเดียถือว่ามีพละกำลังอย่างมหาศาล แทบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นประเด็นสังคมใหญ่โตในปัจจุบัน ล้วนเกิดจากสื่อที่เรียกว่าโซเชียลมีเดียแทบทั้งสิ้น

แม้ว่าจะมีอิสระทางด้านการสื่อสาร ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนแสดงออกถึงความคิดเห็นได้อย่างเสรี แต่ถ้าข้อความนั้นกลับไม่อยู่ในขอบเขต สร้างความแตกแยก ใช้วาทกรรมที่เรียกว่า “Hatespeech” ก็ไม่พ้นที่จะได้รับการบอยคอตจากกลุ่มคนที่มีความเกี่ยวข้อง อย่างเช่นกรณีของ Facebook ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

กระแสการเรียกร้องสิทธิ Black Lives Matter ในสหรัฐฯ ที่กลายเป็นภาพความรุนแรงเกิดขึ้น โดยมีภาพการปล้นร้านค้า จนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทั้ง Facebook และ Twitter ว่า

“ถ้ามีการปล้นเมื่อไหร่ ตำรวจก็ยิงจัดการได้ทันที พวกอันธพาลกำลังทำให้ความทรงจำที่มีต่อ George Floyd เสื่อมเสีย”

หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างในเชิงของ hate speech ที่สนับสนุนให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยทาง Twitter ได้ทำการแบนโพสต์นี้เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา ผิดกับ Facebook ที่ไม่แสดงท่าทีอะไร และบ่อยครั้งเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชังด้านเชื้อชาติได้ไปปรากฏบนโฆษณาของแบรนด์สินค้าจนสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้พบเห็น

ดังนั้น Facebook จึงโดนกระแสตอบกลับอย่างหนัก ทั้งจากประชาชนที่แสดงถึงความไม่พอใจ รวมทั้งแบรนด์สินค้าที่ต่างทยอยถอนการโฆษณาออกจาก Facebook ไป

แบรนด์สินค้าหลายบริษัทตัดสินใจคว่ำบาตร Facebook ด้วยการตัดงบโฆษณาออกไป ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นอย่าง Patagonia, REI เช่นเดียวกับ Coca-Cola ที่ประกาศจะหยุดลงโฆษณาทั่วโลกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน (เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม), Unilever หยุดลงโฆษณาบน Facebook, Instagram และ Twitter, Ben & Jerry’s ผู้ผลิตไอศกรีม หยุดลงโฆษณาบน Facebook และ Instagram (เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม), Starbucks แบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่ ประหยุดโฆษณาชั่วคราวบนทุกสื่อโซเชียลมีเดีย, Pepsi หยุดโฆษณาบน Facebook และ Instagram (เริ่มเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม)

นอกจากนี้ Microsoft ก็ประกาศว่าจะหยุดการลงโฆษณาบน Facebook และ Instagram อย่างน้อยถึงเดือนสิงหาคม

แน่นอนว่ายังไม่จบแค่นี้อย่างแน่นอน เพราะยังมีอีกหลายแบรนด์ที่กำลังพิจารณาที่จะหยุดการโฆษณาผ่านทางแพลตฟอร์มที่ Facebook เป็นเจ้าของ ซึ่งปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้ไปมากกว่า สองแสนล้านบาทเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ในปี 2019 Facebook สร้างรายได้จากการโฆษณาราว 2,152,963 ล้านบาท