Travel Bubble เริ่มชัด ส.ค.นี้ อาจได้เห็น “กรุ๊ปทัวร์” เดินเข้าไทย


เช็ก 7 พื้นที่ 7 จังหวัด ถูกนำร่องให้ต่างชาติเที่ยว”ทราเวล บับเบิล” ส่วนรูปแบบเข้ามาไทยเป็น “กรุ๊ปทัวร์” คุมโควิด-19 ง่ายกว่าปล่อยฟรี

อยากทราบกันหรือไม่ ว่าจังหวัดไหน จะได้เป็นพื้นที่ให้โปรเจกต์ “ทราเวล บับเบิล” ของรัฐบาล ในการปักหมุดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเปิดต้อนรับพวกเขาอีกครั้ง หลังจากโควิด-19 ในประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในทุกคืนวัน จนปลอดเชื้อในประเทศไปแล้วถึง 38 วัน

คำตอบจากวงประชุมของ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยววประเทศไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) คือการเคาะมาแล้วในเบื้องต้น 7 พื้นที่ 7 จังหวัด ด้วยกัน ประกอบด้วย

1.จ.เชียงใหม่

2.อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

3.จ.กระบี่

4.จ.ภูเก็ต

5.พัทยา จ.ชลบุรี

6.จ.เชียงราย

7.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ทั้ง 7 พื้นที่จากวงประชุมในข้างต้น จะถูกนำไปคุยกันอีกชั้นกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้พิจารณาในเรื่องความปลอดภัย ก่อนที่จะส่งต่อไปยังวงประชุมศบค.ชุดใหญ่ได้เคาะกันไม่เกินกลางเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้กรอบการเดินหน้าของ “ทราเวล บับเบิล” ได้เกิดขึ้นจริงโดยเร็วที่สุด น่าจะเป็นเดือนสิงหาคม 2563

คำถามที่ตามมาคือ จะเปิดรับต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวกันแบบไหน เพราะโลกภายนอกยังคงแวดล้อมไปด้วยโควิด-19?

“ในช่วงแรกเราจะเปิดให้กับ ‘กรุ๊ปทัวร์’ ขนาดเล็ก ที่ต้องผ่านบริษัทนำเที่ยว บริษัททัวร์ และแผนการท่องเที่ยวต้องอยู่ในกำหนดเท่านั้น จะออกไปนอกทางไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้้น เราจึงเลือกกรุ๊ปทัวร์ที่จะคุมได้ง่าย เพราะหากปล่อยให้เข้ามาเที่ยวกันเอง แบบนั้นจะคุมยากกว่า” คำตอบจากคำถามข้างบนของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

นายพิพัฒน์ ขยายความต่อว่า กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะทดลองระยะแรก ได้แก่ บางเมือง และบางมณฑลของจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน แต่ต้องเอาข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมาประกอบด้วย โดยผู้ที่เข้ามาต้องตรวจโควิด-19 ที่ประเทศต้นทางก่อน ต้องนำใบรับรองแพทย์มาด้วย และมาตรวจซ้ำในไทย จะต้องทำประกันที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโควิด-19 มีแอปพลิเคชันติดตามตัว หากพบการติดเชื้อระหว่างเดินทาง ต้องยอมรับการกักกันและรักษา

แต่ทราเวล บับเบิล ไม่ใช่การ “เปิดให้เต็มๆ” กับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปในแต่ละพื้นที่ที่กำหนดได้ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในพื้นที่นั้นๆ ด้วยเช่นกัน นายพิพัฒน์ อธิบายพร้อมกับยกตัวอย่างว่า จ.ภูเก็ต จะรับนักท่องเที่ยวได้ราว 1,000 คน/วัน และสิ่งที่กำหนดจำนวนเอาไว้คือความพร้อมด้านสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ แต่ทั้งนี้ โปรเจกต์ทราเวล บับเบิล จะพาต่างชาติเข้ามาเที่ยวได้ราว 5,000 คน/วัน จากสถานการณ์ปกติที่จะมีต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทยเฉลี่ย 30,000 คน/วัน

แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะน้อยลงกว่าปกติหลายเท่าตัว แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือเม็ดเงินที่เข้าประเทศมากขึ้น และการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ยังอยู่ในวงล้อมที่จัดการได้

“แต่ถ้าไม่มีปัญหา และช่วงท้ายของปีเราขยายพื้นที่ท่องเที่ยวได้มากขึ้น ระหว่างสิงหาคมถึงธันวาคมนี้ เราก็น่าจะได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 1.3 ล้านคน หากไปนับรวมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาแล้วก่อนเกิดการแพร่ระบาดในช่วงครึ่งปีแรกของ 2563 ที่ได้มา 6.7 ล้านคน ทั้งปีนี้เราก็น่าจะได้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศราว 8 ล้านคน ซึ่งมันก็นับว่าเป็นตัวเลขที่ดีเอามากๆ แล้ว หากคำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” นายพิพัฒน์ กล่าว