ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่นพร้อมใจใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการสินค้า ลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน


หากติดตามข่าวสารของประเทศญี่ปุ่น เราจะทราบกันดีว่าพวกเขาเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มตัว และทำให้ร้านสะดวกซื้อต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

ดังนั้น สิ่งที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ คือการนำเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงาน ซึ่งที่ผ่านมาร้านสะดวกในญี่ปุ่นเริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันบ้างแล้ว

เริ่มกันที่ร้าน Lawson เตรียมทดลองเปิดร้านโดยไร้แคชเชียร์ในปี 2020 เพื่อแก้ปัญหาสภาวะการขาดแคลนแรงในญี่ปุ่น โดยร้าน “Lawson Go” หรือร้านไร้แคชเชียร์ มีความคล้ายคลึงกับ Amazon Go ของ Amazon ซึ่งจะเป็นการลดจำนวนพนักงานลง และใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยเหลือมากขึ้น

สำหรับภายในร้าน “Lawson Go” จะใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจสอบหน้าจอสมาร์ทโฟน และระบบจดจำใบหน้าสำหรับสินค้าที่ลูกค้าซื้อ อีกทั้ง Lawson ยังได้พัฒนาหุ่นยนต์เพื่อเช็คสต็อกสินค้า และทำอาหาร

ล่าสุด japantoday รายงานว่าร้าน FamilyMart ประกาศความร่วมมือกับ Telexistence บริษัทผลิตหุ่นยนต์ วางแผนศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยใช้เทคโนโลยีของ Telexistence เพื่อเข้ามาใช้จัดการสินค้าภายในร้าน FamilyMart

สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ คือ VR ที่มีความพิเศษอยู่ตรงที่พนักงานสามารถควบคุมหุ่นยนต์ได้ในระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาประจำการที่ร้านแต่อย่างใด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีขาดแคลนแรงงาน หรือหาคนงานไม่ได้

 

 

แน่นอนว่าเป้าหมายของ FamilyMart คือต้องการนำเทคโนโลยีเข้าไปในการจัดการภายในร้านให้ประสบความสำเร็จ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานของพนักงาน

ทั้งนี้ เทคโนโลยี VR จะเริ่มติดตั้งภายในร้าน FamilyMart นำร่องในกรุงโตเกียวก่อน จำนวน 20 สาขา ภายในปี 2022 และอนาคตจะขยายระบบไปยังเมืองอื่น ๆ หากผลการทดลองใช้เป็นไปในทิศทางบวก

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการภายในร้านค้า แม้ว่าจะมีข้อดีในเรื่องความสะดวกสบาย ลดปริมาณการใช้คน แต่อีกด้านหนึ่งเทคโนโลยีที่นำมาต้องมีความเสถียรในการให้บริการกับลูกค้า มีกระบวนการที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการมีพนักงานประจำอยู่ในร้าน ซึ่งหากตอบโจทย์ในเรื่องนี้ไม่ได้เทคโนโลยีก็จะกลายเป็นอุปสรรคของร้านสะดวกซื้อเช่นกัน