มีโอกาสมากแค่ไหน ที่แบรนด์ธุรกิจในเอเชียจะบอยคอต Facebook ตามแบรนด์ดังทั่วโลก


กระแสการคว่ำบาตรของแบรนด์ดังไม่พอใจ Facebook ที่ไม่พอใจกับการจัดการวาทกรรม Hatespeech จากกรณีการเสียชีวิตของ George Floyd ที่มีการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม เรียกร้องสิทธิ Black Lives Matter ในพื้นที่หลายรัฐของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม กระแสที่ออกมาก็มีมาทั้งในด้านเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เรื่องที่สร้างความไม่พอใจให้กับแบรนด์สินค้าเป็นอย่างมาก คือการที่ Facebook มีการเปิดโอกาสให้ใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะ Hatespeech โดยไม่มีการจัดการ หรือลบข้อความเหล่านั้นแต่อย่างใด ดูได้จากกรณีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Facebook อย่างไม่เหมาะสม และบ่อยครั้งเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชังด้านเชื้อชาติได้ไปปรากฏบนโฆษณาของแบรนด์สินค้าจนสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้พบเห็น

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายแบรนด์สินค้าดังร่วมตัวกันคว่ำบาตร Facebook- Instagram ร่วมใจกันลดหรือหยุดการโฆษณาผ่านแคมเปญที่มีชื่อเรียกว่า “The Stop Hate for Profit” ซึ่งตอนนี้ได้มีแบรนด์ธุรกิจเข้าร่วมกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Unilever, Verizon, Pepsi, Coca-Cola, Ben & Jerry’s, Diageo, Levi’s, Patagonia, REI, Lending Club, Mozilla, Upwork, Starbucks, Microsoft, Lego, Danone, Mars และ Volkswagen Group

 

 

เมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่าแบรนด์ส่วนใหญ่ที่ร่วมคว่ำบาตร Facebook จะอยู่ในทวีปอเมริกา และยุโรปเป็นหลัก จึงเกิดคำถามว่าเหตุการณ์นี้จะลุกลามมายังทวีปเอเชียหรือไม่

การสำรวจของ WFA ที่สอบถามไปยัง 76 บริษัท พบว่าประมาณ 58 บริษัท ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับการระงับค่าใช้จ่ายงบโฆษณาบน Facebook หากคิดเป็นสัดส่วน ก็จะพบว่าร้อยละ 41 ยังไม่ตัดสินใจ, ร้อยละ 26 มีแนวโน้มที่จะคว่ำบาตร Facebook และร้อยละ 5 จะเข้าร่วมแคมเปญ The Stop Hate for Profit

นอกจากนี้ ร้อยละ 17 อาจจะไม่ระงับงบโฆษณาที่ใช้จ่ายบน Facebook ขณะที่ร้อยละ 12 ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะไม่คว่ำบาตรบน Facebook

แม้ว่าบางธุรกิจในเอเชียจะมีบริษัทแม่อยู่ในสหรัฐฯ แต่พวกเขาก็ชี้แจงว่าบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในเอเชียจะไม่มีนโยบายทำตามบริษัทแม่ โดยมองว่าเป็นความขัดแย้งกันในพื้นที่ และน่าจะมีวิธีอื่นที่ทำให้ Facebook แสดงความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ Facebook Ads ถือเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำการตลาดชองแบรนด์ธุรกิจในเอเชีย เนื่องจาก Facebook เป็นแอปพลิเคชันที่ยอดนิยมของผู้คนในทวีปเอเชีย มีการเข้าถึงสูงถึง 678 ล้านคน/วัน และ 1,100 ล้านคน/เดือน ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงที่สุดของโลก โดยรายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2020 ของ Facebook พบว่ารายได้จากโฆษณาบน Facebook ในทวีปเอเชียแปซิฟิก มี ตัวเลขอยู่ที่ 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: marketing-interactive