หัวหน้าหลาย ๆ คนมักจะไม่เคยสำรวจพฤติกรรมตัวเองว่าเรามีข้อด้อยตรงไหน เพราะเขาเหล่านั้นจะได้รับแต่คำชมจนเคยชิน และไม่มีใครกล้าที่จะตำหนิ หรือพูดข้อเสียของเขาออกมาให้รับรู้
ซึ่งถ้าหากสามารถแก้ไข 5 เรื่องเหล่านี้ไปได้ จะทำให้คุณเป็นหัวหน้าที่มีคุณภาพ และเป็นที่รักของลูกน้องทุกคนอย่างแน่นอน
1. สั่งประชุมพร่ำเพรื่อไม่มีรูปแบบชัดเจน
การประชุมบ่อยๆ หลายคนอาจคิดว่ามันจะช่วยให้งานเดิน ทำให้ทุกคนได้ระดมความคิด และสามารถพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นได้อย่างที่คาดหวัง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หัวหน้าต้องการ แต่ในความเป็นจริงการจัดประชุมเป็นประจำ หรือพร่ำเพรื่อแบบไม่มีระบบ ไม่มีแบบแผน ไม่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีแต่จะทำให้เสียเวลาในการทำงานมากขึ้นไปอย่างน่าเสียดาย พนักงานทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง การประชุมทำให้เขาสูญเสียเวลาในการทำงานตรงนั้นลง ยิ่งถ้าคุณจัดประชุมบ่อยครั้งเข้า ยิ่งทำให้เขาเสียเวลา และอาจต้องมาทำงานล่วงเวลาด้วยก็ได้ ซึ่งไม่มีพนักงานคนไหนต้องการ และนี่อาจเป็นตัวการที่ทำให้ลูกน้องไม่ชอบคุณเช่นกัน
2. ต่อว่าพนักงาน แต่ไม่เคยชื่นชม
เมื่อพนักงานทำผิด คุณมักจะตำหนิพวกเขาทันทีหรือไม่ การตำหนิไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งที่ผิดคือ การที่คุณตำหนิต่อหน้าพนักงานคนอื่น หรือต่อหน้าคนจำนวนมาก เพื่อสร้างความอับอาย เพราะจะทำให้พนักงานรู้สึกโดนทำร้ายจิตใจ และไม่มีความมั่นใจในการทำงานอะไรอีกเลย รวมถึงอาจเกิดความบาดหมางในใจที่มีต่อคุณด้วย นอกจากนี้ถ้าคุณเก่งแต่ตำหนิ แต่ไม่เคยเอ่ยปากชมเองก็จะทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีความสุข ไม่สบายใจที่จะอยู่ใกล้คุณ หรือทำงานร่วมกับคุณเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแต่เสมอตัว หรือไม่ก็โดนต่อว่าเท่านั้น แต่ไม่เคยได้รับคำชมจากคุณเลย
3. รับรู้ทุกปัญหาแต่กลับมองข้าม
การเป็นหัวหน้า นั่นคือต้องเป็นที่พึ่งพาของลูกน้องทั้งหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องอะไรก็ตาม หัวหน้าต้องสามารถแก้ไขหรือช่วยเหลือเขาได้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งถ้าคนเป็นหัวหน้ารับรู้ทุกอย่างดีแต่ไม่เคยแก้ไข ไม่เคยทำให้มันถูกต้องเลย พนักงานทั้งหลายก็จะมองว่าไม่ยุติธรรม หรือทำงานกับหัวหน้าแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะสร้างความปวดหัวหรือลำบากให้กับพวกเขามากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาที่เกิดจากคนทำงานด้วยกัน พนักงานทะเลาะกัน หรือการเมืองภายใน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องรีบแก้ไข เพื่อให้พนักงานทุกคนอยากทำงานร่วมกับคุณและเข้าใจว่าคุณเป็นธรรมกับทุกอย่างจริงๆ
4. ไม่ให้คำตอบในเรื่องสำคัญสักที
ทุกๆ องค์กรจะต้องเคยมีปัญหาใหญ่เข้ามาให้ได้ตัดสินใจกัน ซึ่งอำนาจตัดสินใจปัญหาเหล่านี้มาจากหัวหน้าโดยตรงแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น และการตัดสินใจในเรื่องราวเหล่านั้นล่าช้าก็จะยิ่งทำให้พนักงานทำงานยากเข้าไปใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้อาจดูเผินๆ เหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ในความจริงมันกลับสร้างความวุ่นวายในการทำงานให้พนักงานไม่น้อย เพราะสุดท้ายพอคุณตัดสินใจเสร็จ คนที่จะเริ่มทำงานต่อก็คือลูกน้อง และนั่นเท่ากับเขาเหลือเวลาในการทำงานน้อยลง ถ้าคุณตัดสินใจได้ไวขึ้น เขาก็มีเวลาเยอะ งานที่ได้ก็จะออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นต่อให้คุณจะงานยุ่งแค่ไหน แต่ก็ควรจะวางตารางให้กับเรื่องที่มันส่งผลกระทบกับใครหลายๆ คนด้วย เคลียร์งานที่มันเกี่ยวข้องกับคนหมู่มากก่อน แล้วค่อยดำเนินการอื่นๆ ก็ยังได้
5. มอบหมายงานที่มากเกินไป
แน่นอนว่าการจ้างงานพนักงานในตำแหน่งหน้าต่างๆ แล้วก็หวังว่าเขาจะทำงานอย่างคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่อย่าลืมว่าพนักงานไม่ใช่หุ่นยนต์ การทำงานที่มากมายโดยได้เงินเดือนเท่าเดิม มีแต่จะทำให้พวกเขารู้สึกไม่ดีกับคุณมากขึ้นเท่านั้น นอกเสียจากว่าคุณจะมอบหมายงานและจ่ายมันตามผลงานจริง อย่างการจ้างงานฟรีแลนซ์ หรือการมีคอมมิชชั่นให้พวกเขาด้วย แบบนั้นจะยิ่งสร้างความดีใจ เพราะถ้าเขาได้ทำงานเยอะ ก็เท่ากับพวกเขามีรายได้มากขึ้นเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : 5 เรื่องที่หัวหน้างานสร้างปัญหาให้ลูกน้องแบบไม่รู้ตัว
www.bangkokbanksme.com