สิ่งที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการทำธุรกิจออนไลน์ได้มากที่สุดก็คือ ยอดฟอลโล่ ผู้ติดตาม หรือยอด Subscribe ต่างๆ นั่นเอง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คนที่ยังไม่เคยใช้บริการหรือไม่เคยรู้จักกับธุรกิจคุณมาก่อน กล้าที่จะเปิดใจ ศึกษา ยอมรับ และเข้ามาทำความรู้จักมากขึ้น เพราะธุรกิจออนไลน์นั้นแข่งขันกันที่ความน่าเชื่อถือ
เนื่องจากลูกค้าจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่เปิดเพจนี้คือใคร คนที่ขายสินค้านี้ไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งที่เขาเห็นได้อย่างเดียวอย่างเด่นชัด และวัดผลได้ทันทีคือ ผู้ติดตามของเพจนี้ ผู้คนเหล่านี้มีกี่คน ซึ่งนั่นเป็นตัวการันตีสินค้า หรือความมีคุณภาพของคุณไปในตัวแบบอ้อมๆ และทำให้คนทั่วไปทั้งที่รู้จัก และเพิ่งเข้ามาให้ความสนใจ กล้าที่จะตัดสินใจใช้บริการคุณมากกว่าเดิม เพราะมีผู้ติดตามหลายหมื่น หลายแสนคนเป็นตัวการันตีแล้วในระดับหนึ่ง
สร้างผู้ติดตามหลักหมื่น ต้องใช้เงินและเวลามหาศาล
ถึงแม้เราจะรู้ว่าการทำธุรกิจออนไลน์ ยิ่งมีผู้ติดตามเยอะๆ ยิ่งดี แต่การที่เพจเปิดใหม่ หรือธุรกิจหน้าใหม่จะสร้างผู้ติดตามให้ไปถึงหลักหมื่นได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องอาศัยเงินลงทุนในการตลาดที่มากพอสมควร และใช้เวลาอีกมหาศาล ซึ่งมันอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีเงินลงทุนน้อย หรืออยากที่จะสร้างผู้ติดตามแบบ Organic ประหยัด เรียบง่าย แต่ได้ผลดี
เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มผู้ติดตามแบบราคาไม่แพง ไม่ต้องลงทุนเยอะก็สามารถมีคนเข้ามาใช้บริการจำนวนมหาศาลได้ จึงต้องอาศัยการเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้เอาไว้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างหนทางสู่ความสำเร็จให้กับธุรกิจคุณ
5 วิธีเพิ่มผู้ติดตามหลักหมื่น หลักแสน ด้วยงบนิดเดียว
1. ใช้ # เข้ามาช่วย
หากคุณทำคอนเทนต์เกาะกระแส การใช้ # เข้ามาช่วยจะทำให้คอนเทนต์นั้นๆ ของคุณปังได้มากขึ้น ยิ่งถ้าคอนเทนต์คุณเกี่ยวข้องกับ # ที่คนกำลังให้ความสนใจ ยิ่งจะช่วยให้คนเข้าถึงได้เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นหนึ่งในเทคนิคง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลจริงกับทุกวงการ และทุกธุรกิจ เพียงแค่คุณมองหากระแสเด่นๆ และทำคอนเทนต์ให้มันสอดคล้องกับกระแสเหล่านั้น ปิดท้ายด้วยการใส่ # ที่สัมพันธ์กันในตอนโพสต์ ก็จะช่วยให้คนที่สนใจเข้ามาค้นหาและเจอคุณได้อย่างมากมายมหาศาล วิธีนี้ใช้ได้กับทุกโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Tiktok YouTube IG หรือ Facebook
2. เอาตัวเองไปให้คนเห็นเยอะๆ
มีเน็ตไอดอล หรือคนที่เป็นคนดังบนโลกออนไลน์หลายคน สร้างตัวเองขึ้นมาจากศูนย์ โดยการไปคอมเมนท์ตามเพจดังบ่อยๆ เพจที่มีคนให้ความสนใจเยอะๆ พอไปคอมเมนต์หลายเพจ หลายโพสต์ต่อวันและเป็นเวลานาน ก็จะเริ่มมีคนที่ติดตามเพจเหล่านั้นเช่นกันจดจำได้ รวมถึงอยากรู้ว่าคุณคือใคร และเข้ามากดฟอลโล่เอง ซึ่งวิธีนี้ใช้เวลานาน แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่คอมเมนต์หรือโพสต์ที่คุณเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ต้องเป็นโพสต์ที่สร้างสรรค์สักหน่อย เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณเสื่อมเสีย
3. ลงคอนเทนต์ตามเวลาที่กลุ่มเป้าหมายว่าง
เมื่อคุณทำคอนเทนต์เสร็จแล้ว สำคัญที่สุดคือช่วงเวลาที่ลงคอนเทนต์เหล่านั้น ถ้ากลุ่มเป้าหมายคุณเป็นคนที่ว่างช่วงเย็น การลงคอนเทนต์ช่วงเย็นก็จะช่วยให้มีคนพบเห็นมากขึ้น หรือถ้ากลุ่มเป้าหมายคุณเป็นคนมีเวลาว่างช่วงเช้า ก็ต้องลงช่วงเช้า ซึ่งแรกๆ ในการทำธุรกิจคุณอาจจะยังไม่ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายตัวเองเลือกดูคอนเทนต์กันตอนไหนมากที่สุด แต่เมื่อทำมาได้สักพักคุณจะเริ่มมีข้อมูลหลังบ้านจากแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้คาดคะเนความสนใจและช่วงเวลาในการเสพคอนเทนต์ของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เมื่อลงเวลาที่ถูกต้อง คนก็จะเห็นมากขึ้น แชร์มากขึ้น ผู้ติดตามหน้าใหม่ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
4. ติดตามลูกค้าของคู่แข่ง
วิธีเพิ่มผู้ติดตามนี้หลายคนคาดไม่ถึง แต่มันได้ผลอย่างมาก เพราะคู่แข่งของคุณย่อมมีผู้ติดตามของตัวเองเช่นกัน และคนเหล่านั้นคือกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่คุณกำลังทำอยู่แน่นอน เพราะเขาติดตามคู่แข่งคุณ ดังนั้นนี่จึงเป็น Target ที่ดีที่มีแนวโน้มจะสนใจบริการคุณสูงมาก วิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้เขาหันมาติดตามคุณได้คือ คุณต้องเข้าไปสร้างซีนในชีวิตของพวกเขาก่อน นั่นคือการกดติดตามพวกเขา กดไลค์ หรือกดปุ่มใดก็ตามที่ทำให้เกิด React ขึ้นระหว่างคุณทั้งคู่ เพราะมันจะทำให้เขารับรู้ถึงการมีตัวตนของคุณอยู่ และแน่นอนว่าเพราะคุณขายสินค้าในแบบที่เขาให้ความสนใจ การที่เขาจะเข้ามาดูร้านคุณ มากดถูกใจเพจคุณต่อมาจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก และคุณสามารถสร้างตัวตนเรียกผู้ติดตามเพิ่มเติมได้จากวิธีนี้เช่นกัน
5. ใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ ช่วยโปรโมต
โซเชียลมีเดียในปัจจุบันมีให้คุณเลือกใช้หลากหลายตัวมาก ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีบทบาท หรือความสามารถที่แตกต่างกันออกไป บางตัวมาเพื่อกระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว ว่องไว บางตัวมาเพื่อใช้แสดงคอนเทนต์วิดีโอให้คนเห็นมากขึ้น หรือบางตัวเหมาะสำหรับการอ่านมากกว่า ซึ่งแต่ละคอนเทนต์ที่แตกต่างกันก็จะได้ผลดีในแพลตฟอร์มที่ต่างกันเช่นกัน ดังนั้นเลือกใช้แพลตฟอร์มแต่ละตัวในการโปรโมตแต่ละคอนเทนต์ให้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น ก็จะช่วยประหยัดโฆษณาไปได้ แต่ทำให้คนหันมาสนใจ และติดตามคุณมากขึ้นกว่าเดิม
