ช่วงเศรษฐกิจขาลง ขอแนะวิธีลดรายจ่าย เพื่อ SME อยู่รอดและไปต่อได้

เราต่างรู้กันดีว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ไม่ง่าย เพราะในแต่ละวันมักมีเรื่องใหม่ๆ ให้เจ้าของกิจการต้องคอยคิดแก้ปัญหา และปรับตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจขาลง สงครามการค้า โควิด-19 หรือแม้แต่โซเชียลดิสรัป ทำให้หนึ่งสิ่งที่ SME ต้องรีบคิดปรับตัวอย่างเร่งด่วนก็คือ ‘การหาวิธีลดรายจ่ายทางธุรกิจ’ ให้อยู่รอดปลอดภัยได้อย่างยั่งยืน

เหตุนี้ เราจึงขอเสนอบันได 2 ขั้น เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนธุรกิจให้ก้าวไปต่อได้ในยุค New Normal โดยสเตปท์แรกคือการปรับจากภายในตัวองค์กรของเราเอง และสเตปท์ที่สอง ก็คือการมองหาโซลูชั่นดีๆ จากพาร์ทเนอร์มาสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งควรทำควบคู่กันเพื่อเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สเตปท์ที่ 1 ปรับวิธีทำงานภายในองค์กร ด้วยแนวทางลดรายจ่ายแบบง่ายๆ ที่ทำได้ทันที ดังนี้

ทำบัญชีเดียว เพื่อรู้รายรับรายจ่าย และเสริมสร้างสภาพคล่อง

การนำเอาบัญชีเดียวมาไว้ข้อแรก เพราะอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการทำบัญชีเดียว จะช่วยสร้างสภาพคล่องที่มั่นคงจากการทำระบบบัญชีรายรับ-รายจ่ายผ่านช่องทางเดียว ทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ เมื่อเราต้องการขอสินเชื่อกับธนาคารก็ยื่นกู้ผ่านง่ายขึ้น ได้รับสิทธิพิเศษจากรัฐ และเอกชน ไม่ต้องเสี่ยงถูกเก็บภาษีย้อนหลัง และสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ปรากฏบนบัญชีเดียว ไปลดหย่อนภาษีได้ เช่น การวิจัยและพัฒนา การเทรนนิ่งพนักงาน ฯลฯ

เลือกใช้ Gig worker หรือซัพพลายเออร์ ที่มีศักยภาพเฉพาะด้าน

เพราะต้นทุนค่าจ้างพนักงานประจำ เป็นต้นทุนที่สูงมากกว่า 50% ของหลายๆ ธุรกิจ จากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศหลายครั้ง เราจึงเห็นการเลย์ออฟพนักงานอยู่บ่อยๆ แต่หากมองถึงธุรกิจขนาดเล็กอย่าง SME ที่อาจไม่ได้มีเงินทุนไว้จ้างคนเก่งๆ มาร่วมงานได้มากมายนัก การจ้างงาน Gig Worker หรือคนทำงานโปรเจ็คท์ระยะสั้นในบางตำแหน่งที่มีค่าจ้างสูง เช่น ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ก็จะช่วยสนับสนุนการเติบโต และลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ และจากการพัฒนาระบบขึ้นมามากมายในปัจจุบัน เช่น การขนส่ง การเดลิเวอรี่ การบริหารจัดการคลังสินค้ารูปแบบ Fulfillment หรือแม้แต่แพล็ตฟอร์มรวบรวมซัพพลายเออร์ด้านต่างๆ เพื่อให้เราเลือกใช้งานได้ตามงบที่มี ก็เป็นอีกวิธีช่วย SME ลด รายจ่ายและสร้างเครือข่ายการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแบกภาระหนักได้

ปรับธุรกิจเข้าสู่โหมดดิจิทัลอย่างเต็มระบบ

บนโลกยุคดิจิทัล ถ้าธุรกิจคุณไม่จำเป็นต้องทำงานเชื่อมโยงกันแบบ Face to Face ตลอดเวลา เราก็ไม่ควรให้พนักงานเข้าออฟฟิศ เพื่อเป็นอีกช่องทางช่วยลดต้นทุนค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอุปกรณ์สิ้นเปลืองต่างๆ เพราะยุคนี้ทุกคนสามารถประชุมออนไลน์ หรือติดตามผลลัพธ์การทำงานได้จากทุกที่ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์เทรนด์การเข้าทำงานของคนรุ่นใหม่แล้ว ยังช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงาน พร้อมพาองค์กรปรับตัวสู่โหมดการทำงานอย่างชาญฉลาดได้ด้วย

มองหาแพล็ตฟอร์มทางออนไลน์แบบใช้งานฟรี มาช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

ปัจจุบันมีหลายองค์กรที่พัฒนาระบบต่างๆ ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้สามารถบริหารจัดการงานหลังบ้านให้เป็นระบบ และสะดวกสบาย ในรูปแบบการใช้งานฟรี เช่น ระบบช่วยทำสต๊อก และบัญชี ฯลฯ ทำให้เราเหนื่อยน้อยลง ลดต้นทุนจากการทำงานซ้ำซ้อน ได้อย่างมี Productivity

สเตปท์ที่ 2 เชื่อมโยงธุรกิจกับพาร์ทเนอร์แบบ Win Win ทุกฝ่าย เพื่อเป็นทางลัดสู่การเติบโตที่เร็วขึ้น

เพราะในยุคนี้ หากจะปรับตัวเพียงแค่ในองค์กรก็อาจ…ยังไม่พอ แต่ถ้า SME คนไหน มองหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจแบบ B2B2C ยังไม่เจอ แนะนำให้เริ่มจากการแสวงหาเครื่องมือตัวช่วย จากการพัฒนาทางดิจิทัลของหน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ที่พร้อมส่งมอบให้เรา

อย่างเช่น โซลูชั่น มณี Business Booster เครื่องมือใหม่จาก SCB ที่ตอบโจทย์ 3 ข้อของผู้ประกอบการ SME ไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ช่วยค้นหา และประเมินโซลูชั่น เพื่อช่วย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มยอดขาย และขยายกิจการ’ ขณะเดียวกันยังพร้อมที่จะจับคู่ธุรกิจของคุณกับเหล่าพันธมิตรของธนาคาร เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจคุณก้าวไกลไปมากขึ้น

ลดรายจ่าย

• มณี Free Solution ฟรี! รับฝากเช็คข้ามเขต ฟรี! ค่าธรรมเนียมทุกประเภท เช่น จ่ายเงินเดือนพนักงาน โอนเงินต่างธนาคาร ฯลฯ เมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม

• บัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีกระแสรายวันที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 1% เสมือนบัญชีเงินฝากประจำ รับดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน และมากกว่าคู่แข่งในตลาด ด้วยความตั้งใจช่วยผู้ประกอบการไทย

เพิ่มยอดขาย

• แอปพลิเคชันแม่มณี QR Code ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับเงินผ่าน QR Code หรือบัตรเครดิตในอัตราค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 1% ได้ง่ายๆ อำนวยความสะดวกแก่เจ้าของธุรกิจ แถมช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสเงินสด และยังรับ WeChat Pay รวมถึง AliPay ได้อีกด้วย

• Robinhood แพลตฟอร์มส่งอาหารที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มยอดขาย และช่วยแก้ปัญหาธุรกิจร้านอาหารหลายๆ ร้าน ที่มักเจอกับการเก็บค่า GP หนักๆ เพราะ Robinhood ไม่มีการเก็บค่า GP ทั้งยังสามารถรับเงินไวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

• บริการ Google My Business ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหา และเดินทางไปร้านค้าเราได้สะดวกมากขึ้น ผ่านการเสิร์ชหาข้อมูลผ่าน Google และร้านค้ายังสามารถใส่ข้อมูลต่าง เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายได้ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ รูปภาพสวยๆ และการรีวิวจากผู้ใช้บริการ

ขยายกิจการ

• สินเชื่อมณีทันใจ อนุมัติและรับเงินผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยไม่ต้องส่งเอกสารใดๆ พร้อมการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันเมื่อยื่นกู้ผ่าน ช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจได้ในยามฉุกเฉิน และต่อยอดรับโอกาสการเติบโตได้อย่างทันท่วงที

‘SCB พร้อมเสริมแกร่งธุรกิจ SME’

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.scb.co.th/th/business-solution.html
สนใจประเมินธุรกิจกับ มณี Business Booster https://www.scb.co.th/maneebizbooster
SCB BUSINESS CALL CENTER
0 2722 2222