ความมั่นใจเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ แต่เพราะความมั่นใจที่สูงเกินไป จะกลายเป็นอีโก้ทำให้คุณหลงผิด และเชื่อมั่นในตัวเองจนขาดความรอบคอบ ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นจุดตายของผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนที่คิดว่าความเชื่อตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ลงมือทำ โดยไม่ได้ไตร่ตรอง หรือมองรอบด้านให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าคุณไม่อยากพลาดทำธุรกิจล้มละลายด้วยน้ำมือของตัวเอง การหยุดเดินหน้าและหันมามองรอบด้าน
สังเกตพฤติกรรมเหล่านี้ว่าคุณมี 4 ข้อนี้อยู่หรือไม่ ก็จะช่วยเพลย์เซฟให้คุณปลอดภัยกับการพุ่งไปข้างหน้าได้มากขึ้น และที่สำคัญ แม้คุณจะไม่ได้ขึ้นแท่นผู้ประกอบการ แต่การใช้ชีวิตโดยมี 4 พฤติกรรมเหล่านี้อยู่ก็จะฉุดรั้งคุณไว้ให้ห่างไกลจากความสำเร็จเช่นกัน
1. มั่นใจตัวเองมากเกินไป
ความมั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้คุณกล้าที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่ลังเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันจะเสริมให้คุณอยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จ คุณก็อาจจะเป็นผู้นำเทรนด์ และสร้างปรากฎการณ์ต่างๆ ขึ้นมาได้เลย
แต่ในทางกลับกัน หากมันล้มเหลว ความมั่นใจตรงนี้ก็จะส่งให้คุณตกลงมาสู่จุดที่เจ็บที่สุดได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีก่อนจะมุ่งหน้าพัฒนาสินค้าหรือบริการอะไร หรือตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ใดก็ตาม ให้คุณปรึกษากับคนรอบตัว ถามถึงไอเดียตรงนี้ว่ามันดีมากพอแล้วหรือยังในสายตาของพวกเขา การพึ่งพาความคิดคนอื่นบ้าง จะทำให้คุณปลอดภัยจากการเจ็บตัวไปได้มาก
2. เสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็น
การพัฒนาสินค้าให้เติบโต หรือแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ รวมถึงสร้างข้อดี จุดเด่นให้เห็นชัดเจน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่อย่าลืมว่าการพัฒนาตัวเองตรงนี้คุณต้องพัฒนาอย่างตรงจุดด้วย ไม่ใช่พัฒนาแต่สิ่งที่ลูกค้าไม่ได้ต้องการ
ถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะเท่ากับคุณไม่ได้ทำอะไรเพื่อสินค้าของคุณเลย บ่อยครั้งที่ธุรกิจมักจะมองความคิดตัวเองเป็นหลัก คิดว่าสิ่งนั้นจะดี สิ่งนี้จะช่วยได้ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จขึ้นแม้แต่น้อย เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าหลักของคุณคาดหวัง
ต่อให้ฟังก์ชั่นเสริมของคุณจะดีเลิศเลอแค่ไหน แต่ถ้าการใช้งานหลักมันยังตอบโจทย์ไม่ได้ดีพอ ก็คงไม่มีใครต้องการ
3. เดินย่ำอยู่กับที่เป็นเวลานาน
ในวงการธุรกิจมีคำกล่าวที่ว่า ถ้าคุณหยุดพัฒนา นั่นเท่ากับคุณกำลังฆ่าตัวตาย เพราะคู่แข่งของคุณเขาจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาทุกวัน ถึงแม้วันนี้เขาจะไม่ได้อยู่ในสายตาของคุณ แต่วันที่คุณหยุดเดินเขาจะก้าวเข้ามาแทนแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกคิดค้นขึ้นทุกวัน คนที่ตามเทรนด์อยู่เป็นประจำเท่านั้นจึงจะเอาตัวรอดได้
4. คิดไปเองว่าลูกค้าต้องการอะไร
การสำรวจตลาดยังไงก็นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ดี เพราะหากคุณคิดไปเองว่าการพัฒนาของคุณมันจะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ แต่คุณกลับคิดผิด ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาเงินไปทิ้ง เพราะคุณจะซื้อใจได้แค่เฉพาะกลุ่มคนที่ฉาบฉวย และไม่ได้ใช้งานกับสินค้าตัวนั้นอย่างแท้จริง หรือก็คือกลุ่มลูกค้าขาจรนั่นเอง
ส่วนลูกค้าขาประจำที่รอจะได้รับสินค้าที่มีมาตรฐาน มีการพัฒนาต่อเติมในส่วนที่เขาต้องการ ก็กลับต้องผิดหวัง และหันหน้าไปหาคู่แข่งของคุณแทน เพราะคุณพัฒนาได้ไม่ตรงจุดกับที่เขาอยากได้