“พาณิชย์” นำร่องให้เกษตรกร 4 จังหวัดจดทะเบียนขอสินเชื่อโดยใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกัน


พาณิชย์ประกาศความสำเร็จนำร่องผลักดันเกษตรกร 4 จังหวัด ขอสินเชื่อโดยใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เผยตอนนี้มีผู้นำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 111,365 ต้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 132,169,000 ล้านบาท

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้แก้ไขกฎหมายโดยยกเลิกไม้หวงห้ามบนที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือ สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้การปลูก การตัดไม้เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ง่าย ประชาชนสามารถปลูก และตัดไม้เศรษฐกิจได้เหมือนการปลูกพืชเกษตรทั่วไป

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกษตรกร และประชาชนที่ปลูกไม้ยืนต้นบนสามารถนำมาเป็นหลักประกันของสินเชื่อกับสถาบันทางการเงิน ซึ่งเป็นการช่วยให้เกษตรกรและประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดทำการเกษตร หรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน

โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าบูรณาการร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขับเคลื่อนการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี พิษณุโลก และอ่างทอง ซึ่งมีการนำร่องมอบวงเงินจดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้ค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นไม้ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่า หรือแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

ดังนั้น การจัดงาน “100,000 ไม้ยืนต้น หลักประกันทางธุรกิจ” ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถือเป็นการประกาศความสำเร็จหลังสามารถผลักดัน ให้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรและประชาชนปลูกต้นไม้บนที่ดิน ของตนเองและชุมชน เพื่อเป็นทรัพย์สิน เป็นมรดกให้ลูกหลาน สร้างให้เกิดอาชีพใหม่ๆ มีความมั่งคงในอาชีพ รวมถึงการนำไม้มีค่าไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และนำมาเป็นหลักประกันทรัพย์สินสำหรับขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 15 กันยายน 2563 พบว่ามีผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 111,365 ต้น มูลค่ารวมกว่า 132,169,000 ล้านบาท