หาที่มา #แบนชีสเค้กเซเว่น จากความไม่แฟร์กลายเป็นกระแสดราม่าต่อต้านสินค้า


หากใครได้ในเข้าไปเล่นทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่วันก่อนก็จะพบแฮชแท็กข้อความว่า #แบนชีสเค้กเซเว่น ขึ้นเป็นเทรนด์อันดับต้น ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรถึงได้เป็นกระแสพูดถึงกันในวงกว้างขนาดนี้

สำหรับเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนต้องกักตัวอยู่บ้าน หรือทำงานแบบ Work Form Home หากยังจำกันได้ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีกิจกรรมต่าง ๆ นานา ผุดขึ้นมา ทั้งที่เป็นงานอดิรก หรือสร้างรายได้ให้กับตัวเอง โดยหนึ่งในนั้นคือ “เมนูชีสเค้ก” ที่มีคนทำขาย และกลายเป็นขนมยอดนิยมในช่วงล็อกดาวน์ โดยเฉพาะชีสเค้กหน้าไหม้

อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนมาอยู่ตรงที่เมนูชีสเค้กก็มีขายอยู่ในร้านเซเว่นเหมือนกัน แถมยังขายในราคา 39 บาท ซึ่งถูกกว่าที่ขายตามร้านค้าทั่วไป โดยเมนูชีสเค้กของเซเว่นต่างได้รับทั้งคำชม และคำติจากลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเมนูที่เกี่ยวกับอาหาร

แต่จุดที่ทำให้เป็นกระแสในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 17 กันยายน มาจากช่วงเวลาหนึ่งหากใครเป็นคนทำชีสเค้กจะรู้ดีว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำชีสเค้กขาดตลาด ซึ่งในที่สุดก็มารู้คำตอบว่า บริษัท ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตเบเกอรี่จากจังหวัดกาญจนบุรีส่งขายในเซเว่นจำนวน 24,000 ชิ้น/วัน ซึ่งประสบความสำเร็จ ได้กระแสตอบรับดีเป็นอย่างมาก ถูกสั่งให้เพิ่มการผลิตเป็น 26,000 ชิ้น/วัน แต่บริษัทผลิตให้ได้เพียง 24,000 ชิ้นต่อวัน และครีมชีส 17 ตัน หมดเกลี้ยงภายใน 2 สัปดาห์แรก

หากคนอยู่ในวงการเบเกอรี่จะสังเกตได้ว่า ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ครีมชีสยี่ห้อต่าง ๆ จากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หายไปจากท้องตลาดหมดเกลี้ยง เพราะผมไปกว้านซื้อไว้ทั้งหมด ครีมชีสลอตใหม่ที่สั่งขนส่งทางเรือต้องใช้เวลาเดินทางอีก 2 เดือน

นี่คือตัวอย่างจากบทสัมภาษณ์เรื่อง “พีรวัส” ทายาท “ศรีฟ้า” เบเกอรี่กาญจน์ เปิดเบื้องหลังสูตรเด็ด “ชีสเค้ก” 39 บาท ซึ่งกลายเป็นประเด็นสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อค้า แม่ค้าที่ทำชีสเค้ก เพราะมองว่าเป็นผู้ทำให้วัตถุดิบขาดตลาด และตัดโอกาสของผู้ประกอบการในเรื่องการแข่งขัน จากก่อนหน้านี้ที่โดนตัดเรื่องราคามาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางศรีฟ้าออกมาชี้แจงว่าบริษัทซื้อครีมชีสโดยตรงจากประเทศต้นทาง แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เพราะการสื่อสารถูกเสนอออกไปให้ผู้คนเชื่อว่าวัตถุดิบถูกกว้านซื้อไปโดยบริษัทนี้ ซึ่งก็มีผู้มาแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป โดยมองว่าเป็นกลไกทางธุรกิจ รวมถึงช่วงนั้นครีมชีสเป็นที่ต้องการในตลาดมาจึงมีโอกาสที่จะขาดตลาด เพราะไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบได้ทันตามความต้องการ

รูปภาพประกอบ: 7ElevenThailand