แบงก์ชาติเตรียมแผนรับมือ! หลังโควิด คนไทยใช้พร้อมเพย์พุ่ง 55.1 ล้านบัญชี


ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียม 5 แผนรองรับการเงินดิจิทัล เหตุช่วงโควิด -19 คนไทยใช้พร้อมเพย์มากขึ้นสูงสุด 20 ล้านรายการต่อวัน ลงทะเบียนแล้ว 55.1 ล้านบัญชี

เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New normal) หลังโควิด-19 ทำให้พัฒนาการของระบบการเงินดิจิทัลของประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

เห็นได้จากการใช้บริการระบบโอนเงินพร้อมเพย์ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีจำนวนผู้มีบัญชีเงินฝากที่ผูกกับระบบพร้อมเพย์แล้ว 55.1 ล้านราย และมีรายการธุรกรรมที่ใช้บริการต่อวันสูงสุด 20 ล้านรายการต่อวัน โดยมีร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านระบบคิวอาร์โค้ดกว่า 6 ล้านราย และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารและการใช้เช็คลดลงมาก

ทั้งนี้ ในระยะต่อไปเพื่อรองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจที่จะใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมมากขึ้น ธปท.จะเร่งดำเนินการต่อเนื่องใน 5 ด้าน คือ

1.การนำมาตรฐานสากล ISO 20022 มาใช้ในโอนเงินและชำระเงิน ซื้อขายหลักทรัพย์ สินค้า และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การใช้บัตรเครดิต/เดบิต และการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

2.การสร้างข้อมูลทางเลือกในการขอสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมการเงิน โดยใช้การตามรอยเท้าดิจิทัล (digital footprint) ของแต่ละบุคคล เช่น การใช้จ่าย ชำระค่าบิลต่างๆ หรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เพื่อให้ธนาคารหรือธุรกิจนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบ

3.การสร้างดิจิทัลไอดี เพื่อการแสดงตัวตนของบุคคลแต่ละคนในโลกออนไลน์ ซึ่งในอนาคตอาจจะนำไปสู่บัตรประชาชนดิจิทัล

4.การขยายการใช้เงินดิจิทัลของธนาคารกลางสู่การชำระระหว่างธุรกิจต่อธุรกิจ และประชาชนสู่ประชาชน โดยขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการทดลองโดยให้ภาคเอกชนรายใหญ่ และซัพพลายเออร์ใช้เงินดิจิทัลในการชำระค่าสินค้าระหว่างกัน

5.การเปิดให้บริการทางการเงินแบบใหม่ ทั้งการให้สินเชื่อดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์ (Digital Personal Loan) ที่ใช้ข้อมูลทางเลือก เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ พฤติกรรมการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในการอนุมัติสินเชื่อ