เคล็ดลับเก็บเงิน 1,000,000 บาท ทำได้ ภายใน 1 ปี


“การออมเงิน” ไม่ใช่แค่เพียงสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความมีวินัยในการเก็บออมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้

ปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่จะเก็บออมเงินแต่ไม่สามารถทำได้นั้น เพราะขาดการวางแผนเรื่องการจัดการการเงินที่ดีพอ จึงทำให้ตกม้าตายกับสิ่งยั่วยวนรอบข้างที่พาเงินออกจากกระเป๋าของเราไปในที่สุด โดยแต่ละคนล้วนอยากมีเงินเก็บในจำนวนที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่ายิ่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี เพราะแสดงถึงความมั่งคั่งของตัวเอง

แน่นอนหากคุณอยากมีเงินเก็บ 1,000,000 บาท ภายใน 1 ปี นั่นหมายความว่าแต่ละเดือนคุณต้องเก็บเงินให้ได้ 83,333 บาท เห็นแบบนี้แล้วอาจะเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป โดยเฉพาะพนักงานบริษัท ผู้ประกอบการ ที่ต้องมีภาระในเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องดูแล ดังนั้น เราอาจะปรับเป็นเป้าหมายระยะสั้นก่อนค่อย ๆ เก็บทีละน้อย จาก 10,000 บาท สู่ 100,000 บาท สุดท้ายเงินล้านก็ไม่ใช่เรื่องห่างไกลอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม แม้จะลดจำนวนเงินลงมา แต่หากไม่มีวินัยเป้าหมายที่วางเอาไว้ก็ไม่สามารถเป็นจริงได้ เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราจะมีเคล็ดลับอย่างไรเพื่อให้มีเงินออม บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกัน

เงินเดือนออกรีบหักเข้าบัญชี

เคล็ดลับนี้ถือว่าเป็นการบังคับตัวเองเลยก็ว่าได้ โดยคนส่วนใหญ่มักจะมีมุมมองว่าเงินเดือนออกแล้วใช้จ่ายเงิน ปลายเดือนเหลือเท่าไหร่แล้วค่อยเก็บ เชื่อหรือไม่ว่าแทบทุกรายล้วนใช้เงินอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สุดท้ายก็ไม่เหลือเงินให้เก็บ ดังนั้น คุณอาจจะใช้วิธีหักเงินแบบอัตโนมัติเข้าบัญชีเงินฝากประจำไปเลย สัก 10-20% ของรายได้

มีรายได้ 2 ทาง

ยุคนี้การมีรายได้เพียงทางเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์สภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่แต่ละคนล้วนมีภาระหน้าที่ต้องแบกรับ และการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลดระยะเวลาให้ไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น นอกเหนือจากงานประจำแล้ว คุณอาจจะหารายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ หรือนำทักษะที่มีอยู่นำไปใช้ต่อยอดเพื่อให้เกิดรายได้ใหม่ ๆ

ลดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็น

ทุกวันนี้หลายคนสูญเสียเงินไปกับสิ่งของที่จำเป็นมากมาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหาร/เครื่องดื่ม ลองคิดง่าย คือกาแฟ บางคนซื้อทุกวัน แก้วละ 50 บาท 1 เดือน มี 30 วัน เท่ากับว่าต้องสูญเสียเงินไป 1,500 บาท โดยเรื่องนี้ไม่ได้ห้ามว่าซื้อไม่ได้ แต่ก็ควรอยู่ในระดับที่จำเป็น หรือลดราคาลงมา

แบ่งเงินไปลงทุน

การแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปฝากในบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีแบบฝากประจำ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการออมเงิน แต่ด้วยอัตราของดอกเบี้ยที่ค่อนข้างน้อย โดยอยู่ที่ 0.25-0.50% ซึ่งอาจต้องใช้เวลานาน และไม่สอดคล้องกับสภาพเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปี

อย่างไรก็ตาม อีกเคล็ดลับหนึ่งที่น่าสนใจ คือการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเฉลี่ย 5-6% ต่อปี