ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลเครดิตส่งเสริม SME-Startup เข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น


ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต สนับสนุนกลุ่ม SME – Startup มีประวัติการเงินในระบบข้อมูลเครดิต เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการประกอบธุรกิจในลักษณะเป็นตัวกลางระหว่างผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ลงทุนกับผู้ต้องการเงินทุน เช่น Crowdfunding Portal และ P2P lending platform (Peer-to-Peer Lending Platform) เพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศ

จึงจำเป็นต้องกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อเป็นสมาชิกบริษัทข้อมูลเครดิต เพื่อรองรับธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นใหม่ (Financial Technology) ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และธุรกิจที่ตั้งต้นใหม่ (Start-up) มีข้อมูลทางการเงินที่เกิดจากการใช้บริการผ่านผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่ออยู่ในระบบข้อมูลเครดิต

ล่าสุดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 ธ.ค.63 จึงมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตประกาศกำหนด เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตได้

และกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นตัวกลางที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ นำส่งข้อมูลเครดิตของผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และกลุ่มธุรกิจที่ตั้งต้นใหม่ (Startup) ให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีข้อมูลประวัติทางการเงินในระบบ

อันจะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่นๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยลดการกู้ยืมหนี้นอกระบบสำหรับผู้ประกอบการ SME และกลุ่ม Start-up ที่ปัจจุบันยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ เนื่องจากไม่มีประวัติการขอสินเชื่อในฐานข้อมูลของระบบข้อมูลเครดิต สำหรับสาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติมีดังนี้

1.แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม คำว่า “ข้อมูลเครดิต” และ “สมาชิก” ให้มีความหมายครอบคลุมถึงผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อ (ผู้ให้บริการผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อให้สามารถดำเนินการกับข้อมูลของลูกค้าเช่นเดียวกับสมาชิกประเภทสถาบันการเงินได้ และเพิ่มบทนิยามคำว่า “ผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อ” เพื่อกำหนดลักษณะของผู้ประกอบการและกำหนดให้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตมีอำนาจออกประกาศกำหนดประเภทของธุรกิจตัวกลางในการให้บริการ

2.แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการเปิดเผยข้อมูลแก่สมาชิกหรือผู้ใช้บริการ โดยกำหนดให้บริษัทข้อมูลเครดิตต้องแจ้งเป็นหนังสือแก่เจ้าของข้อมูลทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยหรือให้ข้อมูล เว้นแต่เป็นข้อมูลโดยรวมของสมาชิกผู้หนึ่งผู้ใด ให้แจ้งแก่สมาชิกผู้นั้นทราบ

3.กำหนดห้ามไม่ให้บุคคลดังต่อไปนี้เปิดเผยข้อมูล (1) บริษัทข้อมูลเครดิต ผู้ควบคุมข้อมูล ผู้ประมวลผลข้อมูลสมาชิกหรือผู้ใช้บริการ (2) ผู้ซึ่งรู้ข้อมูลจากการทำงานตามข้อ (1) และ (3) ผู้ซึ่งข้อมูลจากบุคคลตามข้อ (1) และ (2)

4.กำหนดหน้าที่ของผู้ใช้บริการในการใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สินเชื่อ การออกบัตรเครดิต การนำข้อมูลของลูกค้ามาจัดทำแบบจำลองด้านเครดิต และไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้อื่นที่ไม่มีสิทธิรับรู้ข้อมูล

5.กำหนดสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกประเภทผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อไว้เป็นการเฉพาะดังนี้

-กำหนดให้บริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยข้อมูลแก่สมาชิกประเภทผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในการจัดหาสินเชื่อได้เฉพาะการใช้เพื่อวิเคราะห์สินเชื่อแทนผู้ให้สินเชื่อเท่านั้น

-กำหนดให้สมาชิกประเภทผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางฯ นำข้อมูลของลูกค้าของตนที่ได้รับจากบริษัทข้อมูลเครดิตมาใช้จัดทำแบบจำลองด้านเครดิตได้

-กำหนดให้สมาชิกประเภทผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางฯ ต้องแสดงเหตุในการปฏิเสธการให้บริการหรือการขึ้นค่าบริการ ให้ลูกค้าทราบเป็นหนังสือ

ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเป็นตัวการในการจัดหาสินเชื่อเข้าถึงข้อมูลเครดิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบการวิเคราะห์สินเชื่อ รวมทั้งการประเมินความน่าเชื่อถือและระดับความเสี่ยงของสินเชื่อได้เหมือนกับสถาบันการเงินด้วยต้นทุนที่ไม่แตกต่างกัน อันจะก่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม เพิ่มคุณภาพการปล่อยสินเชื่อ และทำให้หนี้เสียในระบบลดลงได้ ทั้งนี้ ในลำดับต่อไป จะส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป