รถไฟฟ้าสายสีทอง เริ่มเก็บค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 64


รถไฟฟ้าสายสีทอง เริ่มเก็บค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 64 นี้ เป็นต้นไป “กรุงเทพธนาคม” เผยโควิด-19 ทำผู้โดยสารใช้บริการลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ กำชับเข้มงวดมาตรการทำความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดโรค ในระบบขนส่งมวลชนอย่างต่อเนื่อง 

ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการเดินรถ ระบบขนส่งมวลชนระบบรองสายสีทอง สถานีกรุงธนบุรี(G1) – สถานีคลองสาน (G3) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563

 

ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด

 

โดยเปิดให้บริการฟรีตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 มกราคม 2564 และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากการใช้บริการกดบัตรโดยสารที่บริเวณสถานีแล้ว ผู้โดยสารที่ใช้บัตรแรบบิท สามารถใช้บัตรดังกล่าวเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองได้เช่นกัน โดยหักตามมูลค่าค่าโดยสารเที่ยวละ 15 บาท

 

 

ดร.เกรียงพล กล่าวต่อว่า จากสถิติการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีผู้โดยสารเฉลี่ยที่ประมาณ 10,000 เที่ยวคนต่อวัน โดยสถานีที่มีประชาชนใช้บริการสูงสุดคือที่สถานีเจริญนคร (G2) แต่จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกสองที่เริ่มมีผู้ป่วยในกรุงเทพฯตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธันวาคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมโรค ที่เข้มงวดมากขึ้น โดยประกาศให้สถานศึกษาในพื้นที่หยุดเรียน เน้นการทำงานจากที่บ้าน ( Work from home) รวมทั้งการจำกัดจำนวนคนเข้าสถานที่ต่าง ๆ และเข้มงวดการเดินทางของประชาชน ทำให้ผู้โดยสารลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารที่ประมาณ 3,000 เที่ยวคน/วัน ซึ่งเป็นแนวโน้มในทิศทางเดียวกันกับปริมาณผู้โดยสารในส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงห้าแยกลาดพร้าว (N9) – คูคต (N24 ) ที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการถึงสถานีปลายทางคูคต ไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 มีผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 125,444 เที่ยวคนต่อวัน ซึ่งในช่วงแรกที่ให้บริการมีผู้โดยสารมากกว่า 150,000 เที่ยวคนต่อวัน แต่จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ผู้โดยสารลดลง ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80,000 เที่ยวคนต่อวัน โดยในส่วนต่อขยายสายสีเขียว ขณะนี้ทางฝ่ายนโยบายยังไม่มีกำหนดจัดเก็บค่าโดยสาร

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการทำความสะอาดและ ขอความร่วมมือผู้เดินทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19โดยเคร่งครัด ตลอดเวลาที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชน นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ดำเนินการป้องกันในทุกระบบขนส่งมวลชนที่บริษัทให้บริการ ทั้งโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม โครงการรถบีอาร์ที โครงการรถบริการสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ให้กำหนดรอบการทำความสะอาดด้วยน้ำยาแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและหลังให้บริการในแต่ละวัน

 

 

ดร.เกรียงพล ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการพัฒนาการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ที่บริษัทเปิดให้บริการเรือไฟฟ้าจำนวน7ลำไปเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2563 ได้รับความสนใจจากประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยที่ประมาณ 1,000 เที่ยวคน/วัน แต่หลังจากที่มีการระบาดของโควิด-19 ผู้โดยสารก็ลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ด้วยเช่นกัน

ซึ่งทางบริษัทฯ ได้มีมาตรการเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจ และปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร โดยคัดกรองสุขภาพของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ การคัดกรองอุณหภูมิของผู้โดยสารประจำท่าเรือ และให้ผู้โดยสารกรอกประวัติข้อมูลทุกครั้งก่อนใช้บริการ และต้องสวดหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง พร้อมทั้งจัดจุดบริการแอลกอฮอล์ ทุกท่าเรือ และบนเรือ ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสภายในเรือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ