วิเคราะห์นโยบาย โจ ไบเดน จะส่งผลดีต่อสินค้า-การลงทุนไทยในสหรัฐฯ มากแค่ไหน


โจ ไบเดน เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ และวันแรกที่เข้าทำงานเจ้าตัวได้เซ็นยกเลิกคำสั่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนก่อนทั้งหมด 17 ฉบับ เพื่อเปลี่ยนแปลงนโนบายการทำงานใหม่

การเปลี่ยนแปลงผู้นำของชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลก กลายเป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย เช่นเดียวกับประเทศไทยที่เฝ้าดูในเรื่องนโยบายทางการค้าของโจ ไบเดน ว่าจะแนวทางดำเนินไปในทิศทางไหน

กรมส่งเสริมการค้าฯ วิเคราะห์นโยบาย โจ ไบเดน คาดส่งผลดี เพิ่มโอกาสการค้า-การลงทุนไทยในสหรัฐฯ

สำหรับในเรื่องนี้ นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ มองเรื่องนี้ว่าสหรัฐมีนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติด้วยการสร้างความเข้มแข็งอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ เช่น เวชภัณฑ์ สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง การย้ายฐานการผลิตคืนสู่สหรัฐ เพื่อสนับสนุนนโยบาย Buy America และจะลดความตึงเครียดจากสงครามการค้าด้วยการใช้วิถีทางของกฎหมายทางการค้า แต่ยังไม่เปิดเจรจาการค้าใดๆ รวมทั้งจะยกเลิกนโยบายโดดเดี่ยวหันมาสร้างพันธมิตร ให้ความสำคัญกับการต่อสู้โลกร้อน และผ่อนคลายเรื่องแรงงานต่างชาติ เป็นต้น

ส่วนในกรณีของจีน จะไม่ยกเลิกมาตรการต่าง ๆ ของประธานาธิบดีทรัมป์โดยทันที แต่อาจดำเนินการใน ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และมีแนวโน้มต่อนโยบายในเรื่องการเข้มงวดกับการขายสินค้าเทคโนโลยี และเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่จีน และการจำกัดการนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูงจากจีน ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) นายไบเดนไม่มีนโยบายทำสงครามการค้า เน้นการฟื้นฟูมิตรภาพ แต่ยังต้องแก้ปัญหาความไม่สมดุลการค้าสินค้าเกษตร

ขณะที่เอเชียยังไม่แสดงความเห็นการเข้าร่วม RCEP และ CPTPP แต่นโยบายจะให้ความสำคัญกับเอเชียมากขึ้น รวมถึงมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์และร่วมมือกับ WTO มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นโยบายของนายไบเดน น่าจะส่งผลดีทำให้ความสัมพันธ์ของสหรัฐ กับกลุ่มประเทศเอเชียดีขึ้น สร้างโอกาสเพิ่มความร่วมมือทางการค้าการลงทุนของธุรกิจสหรัฐ ในไทย และช่วยเพิ่มโอกาสให้ไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าที่มีมาตรการทางการค้าสูงหรือไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง โดยใช้สหรัฐ เป็นฐานการผลิต และยังจะได้รับผลดีจากการที่สหรัฐ ไม่ยกเลิกภาษีนำเข้าจากจีนในทันที ทำให้ไทยยังสามารถใช้ประโยชน์ส่งออกที่ไปทดแทนสินค้าจากจีนได้

อีกทั้ง จะต้องระวังผลกระทบจากกรณีที่สหรัฐ จะพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น ทำให้จะมีการใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) เพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนจะได้รับผลกระทบจากนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อมและรถยนต์ไฟฟ้า และยังให้ความสำคัญเรื่องการผลิตที่จะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องระวังในเรื่องการย้ายฐานการผลิตมาไทยที่จะลดลง หลังจากสงครามการค้าชะลอตัว นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูนโยบายด้านการเงินการคลังของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อค่าเงินบาทในอนาคตได้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง