จากปัญหาอัตราการจ้างงานในสายการผลิตทางด้านอุตสาหกรรมที่ลดลง เนื่องจากองค์กรใหญ่หลายแห่งได้นำเอาระบบ Automation เข้ามาทดแทน รวมถึงการใช้ AI เข้ามาช่วยให้ Automation ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การแข่งขันของแรงงานสายอาชีพในบ้านเราขณะนี้ จึงเน้นให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี และทันต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ บวกกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นตัวเร่งเศรษฐกิจดิจิทัลขับเคลื่อนเร็วขึ้น การยกระดับวิชาชีพคนไทยให้มีมาตรฐาน และมีศักยภาพการแข่งขันที่ตลาดสากลจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เล่าว่า ด้วยปัจจุบันมีหลายปัจจัยเข้ามาท้าทายแรงงานสายอาชีพมากขึ้น ทำให้คนทำอาชีพอิสระ หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว จำเป็นต้องขอใบรองรองความเป็นมืออาชีพจากภาครัฐ เนื่องจากคนทำอาชีพอิสระหลายคนสามารถประกอบอาชีพได้ดีก็จริง แต่รายได้ที่ได้รับอาจไม่ได้เกิดจากความสามารถอย่างแท้จริง บวกกับคนส่วนใหญ่ยังมองอาชีพอิสระเป็นการรับจ้าง บางคนทำงานได้ดีมาก มีทักษะ และประสบการณ์ระดับผู้บริหาร แต่อาจไม่จบการศึกษาในระดับ ปวช., ปวส. หรือ ปริญญาตรี จึงยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม
การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง ช่วยให้หลุดจากกรอบราคาเดิมๆ
ยกตัวอย่าง ร้านเจ้ไฝประตูผี ที่สามารถขายไข่เจียวปูได้ถึงจานละหลักพันบาท ในขณะที่สตรีทฟู้ดทั่วไปขายจานละหลักสิบหลักร้อย TONI&GUY สามารถตัดผมได้หัวละหลักพันและใช้ระบบเข้ามาช่วยบริหารจัดการพนักงาน แต่ร้านทั่วไปอยู่ในราคาหลักร้อย ซึ่งบางร้านอาจตัดผมได้ดีกว่า เราจึงต้องทำให้คนตระหนักถึงการสร้างมูลค่า หรือ Value และมูลค่าที่เหนือไปจากสินค้าก็คือเรื่องของคน บางคนสามารถสร้าง Value ให้กับตัวเองได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองได้ ‘ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ’ ที่ออกโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจึงเป็นสิ่งการันตีถึงความเป็นมืออาชีพของตัวบุคคลนั้นได้ ว่าอยู่ในสายอาชีพนี้จริง ทำงานได้จริงตามทักษะที่มีอยู่ ทั้งในแง่มุมของการเป็นพนักงานบริษัท และเจ้าของกิจการ เช่น ใครที่เปิดร้านอาหาร สตรีทฟู้ด ร้านเสริมสวย ร้านสปา ร้านซ่อมอุปกรณ์ไอที ฯลฯ ก็จะได้การยืนยันให้ผู้ว่าจ้าง และผู้ใช้บริการมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน ความสามารถทางด้านฝีมืออย่างแท้จริง ยิ่งในยุคนี้การมีอาชีพเดียว รายได้ทางเดียวอาจอยู่ลำบาก ดังนั้นการมีอาชีพที่สอง และได้รับใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาส และช่องทางในการสร้างรายได้
ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ คือการเติมเต็มโอกาส
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถนำ ‘ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ’ ไปขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตรง่ายขึ้น เช่น ธนาคารออมสิน, SME D Bank และ บสย. ส่วนคนที่ต้องการสมัครงาน หรือ ทำงานในบริษัท องค์กรต่างๆ ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพนับว่าเป็นใบเบิกทางให้บริษัทต่างๆ รับรู้ถึงทักษะ ศักยภาพในการทำงานของคนที่มีมาสมัครงาน อย่างแท้จริงว่ามีความเชี่ยวชาญมากแค่ไหน อยู่ในระดับใด เช่น บริษัทการบินไทย ได้ประกาศคุณสมบัติผู้ที่จะมาสมัครงานในครัวการบินไทย ว่าจะต้องผ่านคุณวุฒิวิชาชีพสาขาผู้ประกอบอาหารไทยระดับชั้น 1 ขึ้นไป ซึ่งครัวการบินไทยก็เป็นหนึ่งหน่วยที่ช่วยประเมินให้กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ส่วนอาชีพช่างเสริมสวยก็ได้ ชลาชล อะคาเดมี่ เข้ามาเป็นหน่วยช่วยทำการประเมินศักยภาพ พร้อมกันนี้ยังสามารถนำใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในต่างประเทศได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาชีพผู้ประกอบอาหารไทยไปประกอบอาชีพที่นิวซีแลนด์ อาชีพช่างเสริมสวยไปประกอบอาชีพที่ฟินแลนด์ ฯลฯ โดยจะได้รับค่าตอบแทนในระดับความสามารถที่ควรได้รับในอัตรารายได้ที่ดีของประเทศนั้นๆ
ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพจึงเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมที่มีระบบเป็นสากล รองรับอัตราค่าจ้างในระดับสากล สามารถนำไปแสดงต่อนายจ้าง เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำงานได้ ทั้งยังมีแนวทางพัฒนาฝีมือทางด้านอาชีพอย่างยั่งยืนต่อไป เพราะเมื่อเข้ามาสู่ระบบของภาครัฐ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพก็จะมีแนวทางการสนับสนุนให้มีการพัฒนาฝีมือขึ้นไปจนก้าวสู่ระดับผู้บริหาร พร้อมมีโอกาสเติบโตในสายงาน และธุรกิจต่อไป
8 ระดับ สามารถชี้วัดได้ และยกระดับสมรรถนะขึ้นมาได้
ปัจจุบันสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้ดำเนินการจัดทำมาตรฐานอาชีพไปแล้ว 835 อาชีพ ครอบคลุมทุกอาชีพที่มีในประเทศไทย ตั้งแต่ภาคบริการ, ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม อย่างสาขาวิชาชีพที่ได้ดำเนินการเสร็จล่าสุด ได้แก่ สาขาวิชาชีพการจัดประชุมและนิทรรศการ สาขาวิชาชีพการบรรเทาสาธารณภัย สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปเหล็ก สาขาวิชาชีพผลิตเครื่องจักรกลและโลหะการ และสาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งจากเดิมผู้ว่าจ้างอาจใช้วุฒิการศึกษาที่จบมาเป็นตัวกำหนด จึงทำให้คนที่มีฝีมือค่อยๆ หายไป เพราะไม่สามารถไต่ระดับการก้าวหน้าทางสายงานไปได้ถึงจุดสูงสุด แต่ปัจจุบันการจ้างงานตำแหน่ง CEO ในต่างประเทศหลายๆ ประเทศ ก็ได้ให้โอกาสผู้จบวุฒิ ปวช., ปวส. มากขึ้น จึงเป็นการเลือกคนจากสมรรถนะ และการสั่งสมประสบการณ์ทางสายอาชีพมารอบด้าน ส่วนเกณฑ์ในการกำหนดระดับคุณวุฒิวิชาชีพจะวิเคราะห์จากสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ ในแต่ละระดับจะอธิบายถึงกฎเกณฑ์ ความรู้ ทักษะ และคุณสมบัติใช่ เพื่อวางขอบเขตความรับผิดชอบ ผลผลิตที่พึงจะได้จากการทำงาน การมอบหมายความยากง่ายของการทำงาน รวมถึงการใช้นวัตกรรม ดังนี้
• ระดับ 1 คือ ผู้มีสมรรถนะปฏิบัติงานประจำขั้นพื้นฐาน
• ระดับ 2 คือ ผู้มีสมรรถนะฝีมือในงานอาชีพ
• ระดับ 3 คือ ผู้มีสมรรถนะทางเทคนิคในการประยุกต์หลักการ
• ระดับ 4 คือ ผู้มีสมรรถนะเทคนิคครอบคลุมงานอาชีพ
• ระดับ 5 คือ ผู้มีสมรรถนะเทคนิคและการจัดการ
• ระดับ 6 คือ ผู้มีสมรรถนะในการจัดการและวางแผน
• ระดับ 7 คือ ผู้มีสมรรถนะในการบริหารนโยบาย
• ระดับ 8 คือ ผู้มีสมรรถนะในการสร้างสรรค์องค์ความรู้หรือนวัตกรรมใหม่
มาตรฐานการออกใบรับรองเป็นสากล นานาชาติยอมรับ
สำหรับการคัดสรรผู้ที่จะเข้ามาทำการประเมินฝีมือ ก็จะใช้ระบบสากลอย่าง ISO/IEC 17024 มาคัดสรรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอาชีพนั้นๆ เพื่อเป็นผู้ทำการประเมิน และตัดสินว่าผู้เข้ารับการประเมินควรอยู่ในระดับใด ถ้าประเมินผ่านจะได้รับใบรับรองมาตรฐานอาชีพ พร้อมใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ แต่ถ้าไม่ผ่านก็จะช่วยฝึกอบรมเพิ่มเติมให้ทั้งออฟไลน์ออนไลน์ผ่านสำนักนวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ ส่วนของค่าใช้จ่ายการประเมินแบ่งออกเป็นค่าสมัคร 250 บาท และค่าธรรมเนียมการประเมินจะขึ้นอยู่กับการประเมินในแต่ละอาชีพ และอีกหลายอาชีพที่รัฐสนับสนุนให้เข้ามาประเมินฟรีแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น สตรีทฟู้ด, ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และสินค้าท้องถิ่น ฯลฯ
ผู้สนใจสามารถติดต่อขอทำการประเมินกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเข้าไปยังองค์กรรับรองที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ หรือ CB อยู่ทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้ง 835 อาชีพ ได้ผ่านทาง
https://www.tpqi.go.th/
Call Center 063-373-3926 , 02-035-4900
อ่านเรื่อง: สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กับบทบาทการขับเคลื่อนประเทศไทย