ก.ทรัพยากรฯ ถก ก.คลัง เล็งใช้ “มาตรการภาษี” จูงใจผู้ประกอบการลดขยะพลาสติก


แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม! กระทรวงทรัพยยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถก กระทรวงการคลัง เล็งใช้ “มาตรการภาษี” จูงใจผู้ประกอบการลดขยะพลาสติก

เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อความสุขของประชาชนและสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการบริหารจัดการอย่างบูรณาการหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เริ่มนโยบายลดการใช้ถุงพลาสติก โดยขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ งดบริการถุงพลาสติก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนเป็นอย่างดี ทำให้เห็นว่าแนวโน้นการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาถุงพลาสติกเป็นไปในทิศทางที่ดี

หลายประเทศทั่วโลกต่างตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการออกมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจ ก่อให้เกิดความร่วมมือจากประชาชน สำหรับประเทศไทยขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ในระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง ถึงมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงการก่อขยะพลาสติก อันจะเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังมีเป้าหมายงดการนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ ให้ได้ภายในปี 2569 จากเดิมที่ตั้งเป้าจะงดการนำเข้าเศษพลาสติกภายในปี 2570 ซึ่งจะทำให้ขยะพลาสติกในประเทศถูกบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยระหว่างนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีกระบวนการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะของประชาชน เพื่อการบริหารจัดการที่ดี เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณขยะพลาสติกอยู่ประมาณ 1.6 ล้านตันต่อปี นำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 2 แสนตัน หากมีการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ ก็จะนำขยะพลาสติกกลับใช้ใหม่ได้มากกว่า 2 แสนตัน แม้ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น แต่การคัดแยกขยะ ก็จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี