จากการแพร่ระบาดของ Covid ทำให้ปัจจุบัน AI มีบทบาทยิ่งในการคัดกรองผู้ป่วย Covid เนื่องจากเป็นสิ่งที่โลกยุคใหม่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยเฉพาะการช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และช่วยป้องกันการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์ อุณหภูมิ เพื่อคัดกรองผู้ป่วย และระบุแนวโน้มของการติดเชื้อของผู้คนจำนวนมากๆ ได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งยังนำไปวางแผนการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด อาทิ การจัดสรรเตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจ ฯลฯ และด้วยวิกฤติของ Covid ได้ข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคมหลายด้าน จนเกิดผลกระทบตามมามากมาย หลายธุรกิจจึงได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ครั้งนี้เราจึงอยากแนะนำอีกหนึ่งแนวทางปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำๆ อย่าง AI มาช่วยกอบกู้ธุรกิจให้ไปต่อได้ในภาวะ Covid
AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว SMEs ควรเรียนรู้ ปรับใช้ เพื่อสร้างโอกาส
พอเล่าถึง AI ผู้ประกอบการหลายคนอาจคิดว่าเป็นอะไรที่ซับซ้อน เข้าใจยาก แต่ต้องบอกว่าในความซับซ้อน ทุกวันนี้หลายคนก็ต่างใช้ชีวิตประจำวันกับ AI บนสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง, ระบบแนะนำภาพยนตร์หรือสินค้า, ระบบสั่งงานด้วยเสียง, ระบบสแกนใบหน้า, ระบบแปลภาษา และแชทบอท (Chatbot) โดย AI จะเรียนรู้จากข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบต่างๆ ตามการใช้งานของระบบ เช่น รูปภาพ (ในระบบสแกนใบหน้า) เสียง (ในระบบสั่งงานด้วยเสียง) ข้อความ (ในแชทบอท) รวมถึงการแนะนำสินค้าให้เราอัตโนมัติบนมาร์เก็ตเพลส หรือแนะนำความบันเทิงที่เรามีแนวโน้มจะชอบบนแอปดูหนังฟังเพลงต่างๆ
ลักษณะการทำงานของ AI เมื่อข้อมูลถูกป้อนเข้าสู่ระบบ AI ก็จะทำการเรียนรู้ความเชื่อมโยงของข้อมูลหรือองค์ความรู้ในอดีต แล้วนำเอาสิ่งที่เรียนรู้นั้นไปใช้ในการตัดสินใจดำเนินงานด้านต่างๆ ดังนั้น นอกจาก AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมแล้ว AI ยังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การเรียน การทำงานของเราให้สะดวก และง่ายดายมากขึ้นด้วย ซึ่งในปัจจุบันการใช้งาน AI ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในระดับ Narrow AI คือการช่วยทำงานแบบเฉพาะเจาะจงในงานๆ หนึ่งแทนมนุษย์ได้ และปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานที่พัฒนา AI ให้ทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น เช่น AI สำหรับอ่านผลทางการแพทย์ ฯลฯ โดยคาดว่าในอนาคต AI จะมีความฉลาดมากขึ้น จนทำให้สายงานที่ทำงานรูปแบบเดิมซ้ำๆ จะค่อยๆ เลือนหายไป
Data ต้นทุนสำคัญที่แปรเป็นกำไรได้ด้วย AI
มาถึงเรื่องการใช้ Data กับ AI กันบ้าง ว่าผู้ประกอบการ SMEs จะสามารถนำไปใช้แปรเป็นกำไรได้ด้วย AI ได้อย่างไร เริ่มจากงานในองค์กรที่เป็นงานที่ทำอยู่ซ้ำๆ จำนวนมากๆ อย่างงานกรอกเอกสาร งานดาวน์โหลดเอกสาร บางองค์กรอาจไม่ได้มีเอกสารให้จัดการมากมายนัก แต่ถ้าบริษัทไหนให้พนักงาน 1 คน กรอกเอกสารได้มากที่สุดถึง 100 ใบ หรือเฉลี่ย 3,000 ใบต่อเดือน ในจำนวนนี้เจ้าของกิจการก็ต้องเริ่มมาคิดเรื่องการประยุกต์ใช้ AI เข้ามาช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ และเพิ่มความแม่นยำในฐานข้อมูลได้แล้ว เพื่อเป็นการปรับตัวเข้าสู่โลกการดึง Data มาใช้ได้อย่างยั่งยืน
ในอีกแง่มุม AI ยังช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ อย่างการใช้งานในแพลตฟอร์มทางด้าน Social Listening Tools เครื่องมือที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ตลาด ให้สามารถเช็คถึงแนวโน้มความสนใจของผู้บริโภคที่อยู่ในบนโลกเชียลบน Facebook, Twitter และ IG พร้อมนำเอาฐานข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อได้อย่างรวดเร็ว ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และวางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลาย การรับรู้ความคิดเห็นต่อสินค้า-บริการในแง่มุมต่างๆ ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังช่วยให้รู้ถึงแนวโน้มของตลาด หรือเทรนด์ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนั้นได้อีกด้วย
AI คืออนาคตทางธุรกิจ SMEs ควรเริ่มต้นจากเครื่องมือง่ายๆ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid ทำให้มีหลายบริษัทออกนโยบายให้พนักงาน Work From Home จำนวนมาก ซึ่ง AI ก็เข้ามาช่วยให้การทำงานสะดวกมากขึ้น ยกตัวอย่างการใช้ Google Calendar ภายในองค์กร ที่ระบบ AI ทำได้มากกว่าการตั้งเวลาแจ้งเตือนในปฏิทิน แต่ยังช่วยเลือกวันเวลานัดหมายอัตโนมัติ, นัดเวลาประชุมพร้อมกันครั้งละหลายๆ คน, ช่วยตอบอีเมล, ช่วยจัดเมลบ็อกซ์ พร้อมทั้งสามารถเชื่อมโยงการสั่งงานด้วยเสียงจาก Google Assistant เพื่อตรวจสอบปฏิทินได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าออนไลน์มากมายที่เริ่มต้นใช้งานแชตบอทเพื่อให้บริการลูกค้า ด้วยการนำข้อมูล Q&A ขององค์กรไปสอน AI ช่วยตอบคำถามของลูกค้า เพื่อลดเวลาการทำงานและต้นทุนธุรกิจ
และด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ปัจจุบันก็มีหลายประเทศพัฒนา Digital Banking รูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา อย่างการจ่ายผ่านการสแกนใบหน้าในประเทศจีน หรือแม้แต่การจ่ายด้วยเสียงในสหรัฐฯ ส่วน Digital Banking ในบ้านเราเอง ธนาคารหลายแห่งก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อออกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น AI ที่ช่วยเสนอวงเงินสินเชื่อให้อัตโนมัติเมื่อขาดสภาพคล่อง หรือแม้แต่การเชื่อมต่อข้อมูลจาก Digital Banking ไปยังระบบอื่นๆ เช่น ระบบ HR, POS เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่ง AI เหล่านี้ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs เกิดความสะดวกสบาย พร้อมบริหารจัดการเงินได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
สรุปได้ว่า AI เป็นอีกหนึ่ง Social Innovation หรือนวัตกรรมเพื่อสังคมที่จะเข้ามาขับเคลื่อนคุณภาพชีวิต ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภาคธุรกิจให้สามารถนำ AI ไปใช้เพิ่มโอกาสการแข่งขันกับคู่แข่งทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ได้อย่างเท่าเทียม และสำหรับผู้ประกอบการรายเล็กอย่าง SMEs ที่มีเงินทุนไม่สูงมากนัก อาจเริ่มต้นจากการมองหาแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ใช้งานง่ายๆ เพื่อให้ AI เป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้มี Productivity ยิ่งขึ้น เช่น การใช้ AI เพื่อเกิดการทำงานร่วมกันในทีมอย่างมีประสิทธิภาพ, การพัฒนาระบบแชตบอทเพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้า, การ Digitization เรื่องเอกสารภายในองค์กรโดยประยุกต์ใช้ AI เข้ามาช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ, การวางกลยุทธ์ทางการตลาดโดยใช้แพลตฟอร์ม AI รวมถึงการใช้งาน Digital Banking เพื่อบริหารจัดการเงิน เสริมสภาพคล่อง และเพิ่มโอกาส ซึ่งเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นง่ายๆ ที่จะกอบกู้ธุรกิจได้ในภาวะ Covid ยุคที่ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา…ซึ่งจะมีเพียงคนที่ปรับตัวเท่านั้นที่ยังคงอยู่และก้าวเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน
สามารถรับความรู้เกี่ยวกับ AI เพิ่มเติมได้ที่
www.aiforall.or.th
www.facebook.com/AIThaiSmartbyAIForAll