ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
เชื่อว่าไม่มีใครที่อยากให้ตัวเอง “เป็นหนี้” โดยที่ไม่จำเป็น แต่สำหรับบางคนอยากมีเงินทุนสำหรับทำธุรกิจ หรือใช้สำหรับต่อยอดกิจการที่ทำอยู่ จึงต้องขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งแม้ว่าอยากเป็นหนี้จนใจจะขาดขนาดไหนก็เป็นไม่ได้ เพราะว่าไม่ว่าจะขอกู้เงินกับแบงก์อย่างไร ก็ไม่ผ่านเสียที
….แน่นอนว่าหลายคนมีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่แล้วแต่ต้องการขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น แต่วันนี้ปัญหาอย่างหนึ่งเลยคงหนีไม่พ้นเรื่องของเงินทุนในการต่อยอดธุรกิจ
สำหรับลูกหนี้มือใหม่ที่ทำเรื่องกู้ตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ยังกู้ไม่ผ่าน วันนี้ Smart SME มี 6 วิธี ให้คุณเตรียมตัวไปขอสินเชื่อให้ผ่านฉลุย มาฝากกันค่ะ
1. บัญชีเข้า-ออก ต้องต่อเนื่อง
การเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังจะไปยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารต่างๆ คุณลองกลับมาดูบัญชีของคุณอีกทีว่า อย่างน้อยๆ ในระยะเวลา 6 เดือน บัญชีของคุณมีความเคลื่อนไหวของเงิน เข้า – ออก สม่ำเสมอหรือไม่ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะธนาคารจะดูว่า ความมั่นคงเรื่องของการเงินของคุณเป็นอย่างไร บัญชีมีเงินหมุนเวียนเข้ามาในเรื่องของการขายสินค้าอย่างไร ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการใช้หนี้คืนให้กับธนาคาร สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ แบงก์จะดูว่าคุณมีความขยันมากน้อยแค่ไหน เงินเดือนของคุณที่เข้า – ออก ต่อเนื่องสม่ำเสมอหรือไม่ ข้อนี้เป็นพื้นฐานง่ายๆ ที่ธนาคารจะพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อนั่นเอง
2. รักษาเครดิต ให้ดีที่สุด
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะปล่อยกู้ให้กับคนที่เครดิตไม่ดี หรือมีประวัติไม่ดีในเรื่องของการเงิน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรักษาเครดิตทางการเงินของคุณให้ดี หากมีประวัติผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพราะประวัติเหล่านี้ มันจะส่งผลภายหลังเวลาที่คุณไปขอกู้ธนาคาร แต่สำหรับใครที่มีประวัติไม่ดี มีการขาดส่ง มีการค้างชำระหนี้ ถ้าชื่อเราขึ้นในเครดิตบูโรว่ามีการค้างชำระ ต้องไปชำระให้ครบและต้องรอให้หมดรอบการบันทึกข้อมูล ซึ่งการเก็บข้อมูลของทางเครดิตบูโรจะเก็บไว้ประมาณ 3 ปี
3. เอกสารทางการค้ามีค่า ห้ามทิ้ง
บางท่านเคยเปิดบริษัทมาแล้ว อาจจะมีใบกำกับภาษี บัญชี ซื้อขาย หรือเอกสารต่างๆ ในการจัดซื้อ ไม่รู้ว่าเก็บไว้ที่ไหน วันนี้ต้องกลับไปเก็บรวบรวมไว้ให้ดี เพราะทางธนาคารเขาจะขอดูด้วยว่าคุณมีตัวตนจริงหรือไม่ คุณทำธุรกิจประเภทไหน สั่งซื้ออะไรอย่างไรบ้าง ถือว่าเอกสารทางการค้านั้นมีความสำคัญในเรื่องของการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเช่นเดียวกัน
4. วางใจธนาคาร ส่งเอกสารให้ครบถ้วน
หลายๆ คน ทำธุรกิจจนเติบโต สร้างรายได้เป็นหลักล้าน, หลักสิบล้านหรือเป็นร้อยล้านให้กับธุรกิจ วันนี้ อยากจะซื้อเครื่องจักร อยากจะขยายธุรกิจ แต่ก็กลัวในเรื่องของความลับทางธุรกิจ ไม่อยากจะเปิดเผยให้กับทางธนาคารให้รับทราบ เพราะกลัวว่าธนาคารจะเอาความลับทางธุรกิจของเราไปเปิดเผย แต่แน่นอนว่าในเรื่องความลับธุรกิจแบบนี้ ธนาคารไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาข้อมูลของลูกค้าไปเปิดเผยหากไม่ได้รับการยินยอม เพราะฉะนั้นในเรื่องของความลับที่เกี่ยวกับธุรกิจที่สำคัญๆ เราควรจะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อประกอบการตัดสินใจในการปล่อยสินเชื่อ
5. ขอสินเชื่อให้เหมาะกับธุรกิจ
การขอสินเชื่อให้เหมาะกับธุรกิจนั้น มีผลในเรื่องของการอนุมัติวงเงินสินเชื่อเช่นเดียวกัน คุณจะต้องทำการบ้านและตอบตัวเองให้ได้ว่า ธุรกิจของเราในวันนี้ เพิ่งจะเริ่มต้น หรือว่าเราอยากจะขยายไลน์ผลิตให้ใหญ่มากขึ้น คุณจะต้องคิดแล้วว่าเงินที่คุณจะต้องใช้ลงทุนนั้นประมาณเท่าไหร่ เพื่อที่ธนาคารจะได้รับพิจารณาได้ง่ายขึ้น และธนาคารจะดูกำลังในการชำระคืนด้วย
6. เตรียมแผนธุรกิจให้พร้อม
แผนธุรกิจ มีส่วนสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อ แผนธุรกิจ หมายความว่า วันนี้คุณจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ตั้งราคาสินค้าไว้ที่เท่าไหร่ กำไรที่จะได้เท่าไหร่ รวมไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ตลาดที่คุณจะวางขาย ต่างๆ เหล่านี้ ธนาคารจะดูว่า แผนธุรกิจของคุณนั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าดูแล้วสินค้าของคุณไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเลย ยังไงก็ขายไม่ได้ พอขายไม่ได้คุณก็ไม่มีเงินมาชำระหนี้ให้กับทางธนาคาร เพราะฉะนั้นก็จะส่งผลให้คุณไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ แต่ถ้าวันนี้แผนธุรกิจของคุณมีความเป็นไปได้ สินค้าที่คุณจะขายนั้น เป็นสินค้าที่ตลาดต้องการ แน่นอนว่าคุณเองขายสินค้าได้และมีเงินมาชำระหนี้ให้กับทางธนาคาร เพราะฉะนั้นวงเงินที่คุณเสนอไปให้กับทางธนาคารก็จะได้รับการอนุมัติได้นั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือ 6 เคล็ดลับเตรียมตัวก่อนขอสินเชื่อกับทางธนาคารให้ผ่านฉลุย นอกจากนี้อย่าลืมสำรวจตัวเอง และเตรียมตัวให้พร้อม
มาเป็น “หนี้” ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเพิ่มจำนวนยอดขาย ต่อยอดสินค้าหรือบริการให้ขยายตัว เติบโตไปพร้อมๆ กันค่ะ
