วิจัยชี้ ธนาคารในเอเชียแปซิฟิกพร้อมใช้ประโยชน์จากดิจิทัลเพื่อความได้เปรียบด้านการแข่งขัน


Thought Machine บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นคลาวด์เนทีฟที่มีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ในสิงคโปร์ และ International Data Corporation (IDC) ได้เปิดตัวงานวิจัยร่วมชิ้นที่ 2 ในหัวข้อ Truly Digital Core Banking: You Are More Ready Than You Think

ในงานวิจัยชิ้นใหม่นี้ IDC สรุปความพร้อมของเอเชียแปซิฟิกในการยกระดับภาคธนาคาร และเผยให้เห็นเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับธนาคารในภูมิภาคในการปรับใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยและส่งมอบประสบการณ์การธนาคารดิจิทัลอย่างแท้จริง

ดัชนีใหม่ของ IDC ที่ว่านี้คือดัชนี Digital Core Banking Opportunity Index ซึ่งทำแผนที่ตลาดในภูมิภาคโดยประเมินใน 2 ด้านด้วยกัน ได้แก่ โอกาสที่จะได้รับประโยชน์ และความพร้อมในการดำเนินงาน ในส่วนของด้านโอกาสที่จะได้รับประโยชน์นั้น ตลาดต่าง ๆ ถูกวัดผลโดยดูจากความพร้อมของลูกค้าสำหรับการทำธนาคารดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานของตลาด ในส่วนของความพร้อมในการดำเนินงานนั้น ตลาดถูกวัดจากแนวโน้มที่มีต่อการเปลี่ยนระบบที่มีอยู่เดิมและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในตลาดของพวกเขา

ตลาดที่นำมาวัดผลในดัชนีนี้ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า

– สิงคโปร์และออสเตรเลียมีโอกาสมากสุดสำหรับภาคการธนาคารดิจิทัล โดยตลาดที่เหลือพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล
– ระบบหลักที่เก่าแก่เป็นอันดับต้น ๆ อยู่ในฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ขณะที่เวียดนามมีระบบหลักที่ค่อนข้างใหม่กว่า
– ตลาดในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ที่นำมาวัดอยู่ในกลุ่ม ‘ตลาดที่ถูกกระตุ้น’ โดยเป็นกลุ่มที่จัดว่าพร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มที่
– อินโดนีเซียและไทยมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งที่จะเปลี่ยนระบบธนาคารหลักของตนเอง ขณะที่มาเลเซียและฟิลิปปินส์เปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลได้ช้า

งานวิจัยยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการธนาคารดิจิทัล โดยให้ข้อมูลว่าสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยจะช่วยเพิ่มความสามารถในการส่งมอบของธนาคารและความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร สิ่งนี้ทำให้ความพร้อมโดยรวมของธนาคารดีขึ้นเพื่อทำการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ในครึ่งหลังของงานวิจัยนี้ IDC ได้ระบุข้อกำหนดเจาะจงชัดเจนเกี่ยวกับนวัตกรรมดิจิทัลสมัยใหม่ โดยระบุคุณสมบัติที่ควรมีทั้งหมด 25 ประการ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ตามความต้องการ การกำหนดค่าอัจฉริยะ การออกใบอนุญาตที่ยืดหยุ่น การปรับลดค่าใช้จ่าย และอื่น ๆ

Michael Araneta หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาและวิจัยของ IDC Financial Insights กล่าวว่า “IDC ได้สำรวจการลงทุนระลอกใหม่ในระบบธนาคารดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และพบว่าธนาคารต่าง ๆ พร้อมได้รับประโยชน์จากความสามารถของระบบธนาคารดิจิทัลยุคใหม่ พวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากกว่าเดิม และคล่องตัวกว่าเดิม ตลาดและธนาคารไม่ควรรอให้ ‘เวลาเหมาะเหม็ง’ มาถึง เพราะเวลาที่เหมาะสมคือตอนนี้”

Nick Wilde กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Thought Machine กล่าวว่า “ปัจจุบัน ตลาดเอเชียสามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมคลาวด์เนทีฟ ไปจนถึงกรอบการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วย API และความสามารถในการเสริมประสิทธิภาพแบบใช้โค้ดน้อย ที่มาพร้อมกับระบบดิจิทัลหลักอย่างแท้จริง จุดตัดมาถึงแล้ว ตลาดเอเชียพร้อมแล้วที่จะดำเนินการและคว้าผลประโยชน์ที่จับต้องได้ด้วยการย้ายสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างแท้จริง”

งานวิจัยดังกล่าวได้สำรวจกลไกการธนาคารหลักของ Thought Machine อย่าง Vault ในแง่ของคุณลักษณะเหล่านี้ การประเมินตัวอย่างการพัฒนาแบบใช้โค้ดน้อยหรือไม่ต้องใช้โค้ดเลยทำให้เห็นว่า แนวทางแบบใช้โค้ดน้อยของ Vault ให้ผลประโยชน์มากมายแก่ธนาคารที่ต้องการความคล่องตัวในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การขับเคลื่อนด้วย API และการทำงานแบบเรียลไทม์ของ Vault ยังโดดเด่นด้วยความสามารถในการผสมผสานการทำงานร่วมกับระบบอื่น เชื่อมต่อกับโปรแกรม Open Banking และช่วยให้ภาคธนาคารใช้ประโยชน์จากช่องทางดิจิทัลใหม่ ๆ

งานวิจัยนี้ปิดท้ายด้วยการประเมินแนวทางการยกระดับที่ธนาคารทั่วไปนำไปใช้ได้เมื่อต้องใช้ระบบธนาคารดิจิทัลยุคใหม่ Vault มีจุดเด่นในด้านความสามารถในการรองรับการโยกย้ายหลากหลายประเภท โดยลดความยุ่งยากซับซ้อน ลดความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้อง

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

thoughtmachine.net