วิจัยกรุงไทย ชี้! ธุรกิจ “โซลาร์รูฟ” ภาคครัวเรือน มาแน่ใน 10 ปีข้างหน้า


ศูนย์วิจัย ธ.กรุงไทย คาดการณ์ อีก 10 ปีข้างหน้า ธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปภาคครัวเรือน มีศักยภาพในการเป็นแหล่งรายได้เสริมใหม่ให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ เชื่อ! มูลค่าตลาดสูง 137,000 ล้านบาท

ดร.กิตติพงษ์ เรือนทิพย์ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธ.กรุงไทย กล่าวว่า ธุรกิจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป กำลังเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ เนื่องจากมูลค่าตลาดมีแนวโน้มสูงถึง 1.37 แสนล้านในช่วง 10 ปีข้างหน้า

นอกจากกระแสรักษ์โลก และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการใช้ “โซลาร์รูฟท็อป” มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นมาจากความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้น ยังมีปัจจัยสนับสนุน จากราคา “โซลาร์รูฟท็อป” ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคารับซื้อไฟที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโควตารับซื้อไฟของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้า

ที่ผ่านมาตั้งแต่ ปี 2556 ราคาแผงโซลาร์ในไทยลดลงกว่า 66% ประกอบกับราคารับซื้อไฟของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 บาท/หน่วย ทำให้ระยะเวลาคืนทุนจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเร็วขึ้นจาก 17-30.3 ปี ในปี 2556 เหลือ 6.1-13.9 ปี ในปี 2564 และอาจเหลือเพียง 5.3-12 ปี ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า

เนื่องจากราคาแผงโซลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประเมินว่ามีครัวเรือนไทยถึง 2.3 ล้านครัวเรือนที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและคุ้มทุนได้ค่อนข้างเร็ว หากครัวเรือนกลุ่มนี้เพียง 20% หันมาติดแผงโซลาร์ก็จะทำให้มูลค่าตลาดสูงถึง 1.37 แสนล้านบาท