คนกล้าออกจากบ้าน! ฉุด “Netflix” ยอดตก หุ้นร่วง 11%


“Netflix” ยอดวูบ หลังคนฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้นกล้าออกจากบ้าน ผู้ใช้บริการใหม่กว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ย ทำหุ้นร่วง 11%

บริษัทเน็ตฟลิกซ์ อิงค์ ผู้ให้บริการ “Netflix” สตรีมมิ่งวิดีโอของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การผลิตรายการทีวีและภาพยนตร์ที่ชะลอตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้บริการในไตรมาสแรกของปี 2564 และส่งผลให้ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 11% เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.64)

รายงานระบุว่า มีผู้ใช้บริการ Netflix ใหม่ประมาณ 3.98 ล้านรายในไตรมาส 1/2564 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์จากผลสำรวจของ Refinitiv ที่ 6.25 ล้านราย

โดย “Netflix” เองยังคาดการณ์ว่า ผู้ใช้บริการใหม่จะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านรายในไตรมาสที่ 2/2564 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 4.8 ล้านราย

การคาดการณ์ของ “Netflix” ว่าจะมีลูกค้าสตรีมมิ่งใหม่สุทธิเพียง 1 ล้านราย ถือเป็นยอดการขยายตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท ซึ่งเป็นสถิติเปรียบเทียบจากผู้ใช้งานต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 56 ที่มียอดผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านรายเล็กน้อย

ขณะที่ในปีที่ผ่านมา “Netflix” มีจำนวนผู้ใช้บริการใหม่มากถึง 15.8 ล้านราย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องอยู่กับบ้าน แต่การแพร่ระบาดดังกล่าว ก็เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายทำรายการใหม่ๆของบริษัทเช่นกัน

สำหรับสาเหตุที่ผู้ใช้บริการ “Netflix” ลดลงนั้น นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในวงกว้าง และประชาชนจำนวนมากเริ่มออกนอกบ้าน มาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว