หอการค้าไทย ประเมิน GDP ไทยปี 2564 ใหม่ ปรับโตเหลือแค่ 1.6% จากเดิม 2.8%


มหาวิทยาลัยหอการค้า ประเมินอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2564 หากรัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้นอาจโตเหลือแค่ 1.6% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.8%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนภาคเกษตร, ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ หายไปราว 1 แสนล้านบาท/เดือน แบ่งเป็น

  • โซนสีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด) หายไปราว 8.4 หมื่นล้านบาท/เดือน
  • โซนสีส้ม (พื้นที่ควบคุม จำนวน 59 จังหวัด) หายไป 1.57 หมื่นล้านบาท/เดือน

รวมถึงความต้องการแรงงานในทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ยังลดลงราว 1.48 แสนคน/เดือน

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีการอีดฉัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างไรบ้าง เพื่อชดเชยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย ม.หอการค้าไทย จะยังไม่ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% แต่หากไม่ทำอะไรเลยมีแนวโน้มที่ GDP ไทยในปี 2564 จะเหลือโตแค่ 1.6%

ม.หอการค้าไทย มองว่าการทำให้ GDP โตในระดับ 2.8% สามารถทำได้จากการเพิ่มมูลค่าการอุปโภคบริโภคของภาครัฐ โดยจัดทำโครงการที่มุ่งเน้นการจ้างงานชั่วคราวโดยหน่วยงานภาครัฐ และโครงการที่เน้นการฟื้นการจ้างงานประจำในธุรกิจเอกชน, การเพิ่มมูลค่าการลงทุนของภาครัฐ โดยจัดทำโครงการลงทุนขนาดเล็กในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เพื่อลดผลกระทบภัยแล้ง, การเพิ่มการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชน ด้วยการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านโครงการช็อปช่วยชาติพลัส โครงการบ้านหลังแรกปี 64 โครงการรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก หรือโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ตลอดจนการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ เป็นต้น

ตลอดจนการเพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษี การเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ โดยเจรจากับประเทศคู่ค้าเพื่อเร่งส่งออกสินค้าเกษตรในรูปแบบ G to G ให้มากขึ้น ปรับแผนเจาะตลาดส่งออกเป็นเชิงรุก เน้นตลาดที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากโควิด และสุดท้ายคือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งกระบวนการกระจายวัคซีนในประเทศให้เร็วกว่าแผนเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นต้น

เช่นเดียวกับในเรื่องการท่องเที่ยว ม.หอการค้าไทย สนับสนุนการใช้มาตรการ “ภูเก็ต Sandbox” เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งจากภูมิประเทศของภูเก็ตที่เป็นเกาะ ทำให้มีความสามารถในการควบคุมการระบาดได้ง่ายกว่า ประกอบกับแผนการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภูเก็ตให้ได้อย่างน้อย 50% ในเดือนมิ.ย.นี้ ก็จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาไทย