ถอดกลยุทธ์ “เพนกวินชาบู” เมื่อร้านอาหารนั่งกินไม่ได้ ทางออกคือต้องขายอย่างอื่นแทน


หลังจาก ศบค. ยกระดับพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ชลบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และเชียงใหม่ ให้กลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระลอก 3 และดูเหมือนว่าครั้งนี้จะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

โดยหนึ่งในมาตรการที่ออกมานั้น คือห้ามประชาชนนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน แต่สามารถสั่งกลับแบบ Take away ได้เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารที่อาจต้องสูญเสียรายได้ลดลงจากเดิม เนื่องจากข้อจำกัดที่เกิดขึ้น

ร้านอาหารประเภท “ชาบู” ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยรูปแบบการรับประทานที่เหมาะแก่การนั่งในร้านมากกว่า จึงทำให้ไม่มีทางเลือกกับผลกระทบในเรื่องของรายได้ที่สูญหายไป และนำมาสู่การปรับตัวทางธุรกิจเสนอบริการใหม่ ๆ เพื่อให้อยู่รอด

เมื่อขายชาบูไม่ได้จึงทำให้คุณธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu มองหาทางเลือกแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการขายทุเรียนหมอนทองแกะสด คัดเกรดพรีเมียม ส่งตรงแบบเดลิเวอรี่ วันละ 50 กิโลกรัม

สำหรับแผนงานนี้ดูจะดำเนินการอย่างฉับพลัน โดยคุณธนพงศ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ penguineatshabu ว่า ตั้งแต่รู้ว่ารัฐสั่งปิดร้าน เราได้เรียกรวมพวก ทีมงาน เพื่อวางแผนประเมินความอันตรายในวิกฤตครั้งนี้ หลังจากนั้น 24 ชม. ของการพยายาม #Hackatronตัวเอง ก็เริ่มนับถอยหลัง

#วันแรกช่วงเย็น ที่ประชุมตัดสินใจจะขายทุเรียน รีบคิดชื่อเอง ร่างแบบโลโก้เอง ออกแบบการ์ดขอบคุณเอง ทำระบบการของ หา Supplier และกลับมาเขียนคอนเทนต์ถึงตี 4

#วันที่ 2 เช่าตรู่ไปคุยกับสวน ถ่ายรูปสินค้า เที่ยงไปคุยกับโปรเจคกู้ชีพตัวที่2 บ่ายกลับมาทำโฟโต้ชอป เขียนคอนเทนต์เองทั้งหมด คำนวณราคาขาย สั่งทำสติ๊กเกอร์ สั่งทำ Packaging เริ่มขายตอนเย็น ช่วยทีมงานตอบลูกค้า ปิดยอดตี 1 เริ่มแกะเปลือกตี3 จัดส่งไปจุดกระจายตอนเช้าอีกวัน ดูแลการจัดส่งเอง เที่ยงจัดส่งออกทั้งหมด กลับออฟฟิศมารับสายลูกค้าที่ไปจัดส่งต่อ

การปรับตัวในครั้งนี้ของ Penguin Eat Shabu ไม่ได้มีเพียงแค่ขายทุเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขายหม้อหม้อทอดไร้น้ำมัน, หม้อชาบูปิ้งย่าง, หม้อตัวคนเดียว และหม้อชาบู อีกด้วย

เรื่องนี้อาจจะใช้เป็นกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจร้านอาหารได้ว่า ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นแล้ว อยู่ที่ว่าผู้ทำธุรกิจจะมีไอเดีย หรือหาลู่ทางใหม่ ๆ ทำอย่างไรเพื่อประคับประคองธุรกิจให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ก่อนจะกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติ