มีธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ และสามารถเป็นไอเดีย ปรับใช้ในประเทศไทยได้ไม่มากก็น้อย นั่นก็คือ “โรงแรมกัญชา” ที่เรียกว่ากันว่า “ Bud & Breakfast” ซึ่งเป็นธุรกิจการใช้ประโยชน์จากกัญชาครบวงจร ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางหลากหลายธุรกิจของตลาดกัญชาโลก
Bud & Breakfast
ความน่าสนใจของ Bud & Breakfast ไม่ใช่แค่การเปิดเสรีให้ใช้กัญชาแบบสันทนาการในพื้นที่ซึ่งจัดไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของกัญชาได้อย่างครบวงจร พร้อมกับการสร้างเครือข่ายโรงแรมกัญชา ในประเทศที่มีกฎหมายกัญชาเสรี รวมถึงในประเทศไทยด้วย
เรามีโอกาสพูดคุยกับ 1 ในเครือข่ายของ Bud & Breakfast ในประเทศไทย ที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้เอ่ยถึงการเป็นเครือข่ายดังกล่าวว่า ตัวเธอเองและสามี ได้วางแผนที่จะทำโฮมสเตย์กัญชา เช่นเดียวกันในอนาคต ด้วยข้อกฎหมายกัญชาในไทยที่เปิดกว้างให้เฉพาะการใช้ ใบ กิ่งก้าน ลำต้น และราก การสร้างมูลค่าเพิ่มจึงสามารถทำได้เพียงแค่ อาหารและเครื่องดื่ม
แนวคิดดังกล่าว จึงอาจเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับธุรกิจโฮมสเตย์ท่องเที่ยวได้ ผ่านการผนวกรวมเอาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมทั้งเอกลักษณ์ของชุมชนเป็นจุดขาย ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน และอาหารเครื่องสุขภาพจากกัญชา ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจโฮมสเตย์ธรรมดาๆ ได้
ใน Bud & Breakfast มีอะไร ?
โจเอล ชไนเดอร์ ได้เปิด โรงแรมกัญชา Bud & Breakfast แห่งแรกในเมืองเดนเวอร์ แคนาดา ก่อนขยายอีก 3 สาขาในรัฐโคโลราโด สหรัฐฯ และสร้างเครือข่ายทั่วโลก ทั้งในรัฐอื่นๆที่กัญชาถูกกฎหมายในสหรัฐฯ อุรุกวัย คอสตาริกา แม้กระทั่งในประเทศไทย (แผนในอนาคต)
ทุกวันนี้ โจเอล มีรายได้จากธุรกิจโรงแรมกัญชา ประมาณเดือนละ 3 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 36 ล้านบาท จากการให้บริการห้องพัก พร้อมอาหารเช้าจากเมนูกัญชา และเครื่องดื่ม และกิจกรรมการรวมกลุ่มหรือที่เรียกว่า “420 Happy Hours” ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มสายเขียว ดาราศิลปิน และนักกีฬาชื่อดัง
ย้อนกลับมาในส่วนของประเทศไทย การรวมกลุ่มเพื่อใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ยังคงผิดกฎหมาย แต่การให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีวัตถุดิบส่วนประกอบของ ใบ กิ่ง ก้าน รากและลำต้น ซึ่งมีแหล่งผลิตถูกกฎหมาย ผ่านการปรุงเป็นเมนูอาหารประจำถิ่น ด้วยหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง นี่เองจะเป็นจุดเปลี่ยนให้กับโฮมสเตย์หลายๆที่ สามารถเพิ่มจุดขาย สร้างรายได้ให้กับธุรกิจของตัวเอง
สิ่งที่สำคัญคือการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจของที่พัก ชุมชน ผนวกกับหยิบยกเอากระแสความนิยมใน “กัญชา” มารวมเข้าด้วยกัน เชื่อมั่นว่าในเร็วๆนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น การเปิดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างปกติ ในรูปแบบของ “New Normal”
เราอาจจะได้เห็น “โฮมสเตย์กัญชา” ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ก็เป็นได้