เมื่อโลกปรับ ขยับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ให้เปลี่ยนวิถีชีวิตไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของโรคอุบัติใหม่อย่าง Covid-19 ที่เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับคนทั่วโลก จนตั้งมีการตั้งรับของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในวิถีใหม่ นั่นคือคนหันมาปรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปแทบจะสิ้นเชิง ซึ่งมีการนิยามว่าเป็นวิถีแบบ New Normal
การปรับตัวในรูปแบบใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ท่ามกลางวิกฤติที่ยังถาโถมเข้าใส่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานระยะไกลที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในกลุ่มธุรกิจที่สามารถดำเนินต่อได้ผ่านการสื่อสารแบบ Work Form Home อีกทั้งโควิด-19 ยังเป็นเสมือนตัวเร่งที่ทำให้ภาคการธุรกิจบริการด้านอาหาร เปลี่ยนมาเน้นช่องทางใหม่อย่างการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะบริการแบบส่งตรงถึงบ้านในลักษณะเดลิเวอรี่ช่วงที่คนอยู่บ้านและทำกิจกรรมต่าง ๆ จากที่บ้าน
ข้อมูลจากบริษัท NPD Group บริษัทวิจัยทางการตลาดในสหรัฐฯ ที่ได้มีการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า Gen Z หรือกลุ่ม “คนรุ่นใหม่” ในยุคปัจจุบัน (คนที่เกิดหลังจากปี ค.ศ. 1995 หรือปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา) ซึี่งเป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก คุ้นชินกับเทคโนโลยีและเรียนรู้ได้เร็ว คาดการณ์แนวโน้มได้ว่า ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป คนกลุ่มนี้จะเข้าร้านอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ส่วนใหญ่เป็นการรับประทานอาหารในร้านอาหารทั่วไปที่บริการรวดเร็ว และร้านอาหารจานด่วน
ขณะที่การสำรวจตลาดภาคบริการด้านอาหารในสหรัฐฯ เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้น เนื่องจากข้อมูลจากการสำรวจชี้ชัดว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะรับประทานอาหารที่บ้าน มากกว่าการไปรับประทานอาหารในร้านอาหารนอกบ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นการสั่งอาหารผ่านทางออนไลน์ หรือสั่งซื้อจากร้านอาหารเพื่อรับประทานที่บ้าน
ผลสำรวจข้างต้นสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยเช่นกัน แม้มาตรการจากภาครัฐจะมีการผ่อนคลาย Lockdown ต่าง ๆ ลง แต่สถานการณ์ที่ยังคง เอาแน่ไม่ได้ ทำให้เทรนด์ Eat At Home ยังคงถูกเลือกใช้ โดยเฉพาะการสั่งอาหารรับประทานที่บ้านแทนการไปที่ร้านหรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานที่ที่แออัด หรือการพบปะผู้คน ฟากแบรนด์ร้านอาหารก็พลิกเกมเน้นที่บริการ Delivery มากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าทั้งรูปแบบของอาหารที่เตรียมวัตถุดิบปรุงทานเองรวมถึงสำเร็จรูปแบบแกะกล่องรับประทานได้เลย
ล่าสุด ถือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงกับสำหรับเครือเอ็มเค เรสโตรองต์ ที่ก่อนหน้านี้ แบรนด์เอ็มเค มีการปรับกลยุทธ์และออกแคมเปญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นก่อนหน้านี้ที่เรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้า ด้วยการเปิดให้บริการ “หม้อเดี่ยว” เอาใจคนโสด (Individual Pot) ใน 2 เซตคือสุกี้รวมมิตร 199 บาทและพรีเมียม 229 บาท โดยเสิร์ฟพร้อมชุดผักพิเศษในปริมาณพอเหมาะสำหรับการรับประทานคนเดียว นอกจากนี้ยังเพิ่มปลั๊ก USB สำหรับชาร์จไฟ และ WIFI ฟรีเพื่อให้รับประทานได้แบบไม่เหงาเพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น
นอกจากนั้น เอ็มเคยังร่วมกับพันธมิตรอย่างแกร็บ ให้บริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ ฟู้ด หรือการพัฒนารูปแบบใหม่ “New Concept Store” เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใช้ชีวิตคนเดียวมากขึ้นรวมถึงคนโสดที่เพิ่มขึ้น
จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารที่ร้อนแรงขึ้นทุกขณะ เอ็มเค สร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการประกาศผ่านเฟซบุ๊กเพจ MK Restaurants ว่าขณะนี้ ลูกค้าสามารถสั่งหนึ่งในซิกเนอเจอร์ของ MK นั่นคือ น้ำจิ้มสุกี้ ที่ถูกปากคนไทย สูตรลับเฉพาะที่น้อยคนจะปรุงออกมาได้เหมือนต้นฉบับ โดยระบุว่า
สิ้นสุดการรอคอย กับที่สุดของน้ำจิ้มสุกี้ ต้องน้ำจิ้มต้นตำรับเอ็มเคเท่านั้น
น้ำจิ้มสูตรเด็ดที่หาที่ไหนไม่ได้ พร้อมให้ทุกคนได้มีไว้ติดบ้านแล้ว วันนี้
กินได้ทุกเวลา จะกินมื้อไหนก็อร่อยได้แบบ จุใจ
ไม่มีผงชูรส
ไม่ใส่วัตถุกันเสีย
อร่อยฟินได้เหมือนอยู่ที่ร้าน
ราคาขวดละ 89 บาท พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า สินค้ามีจำนวนจำกัด
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.mkrestaurant.com/th/branch
https://www.npd.com/wps/portal/npd/
เนื้อหาจากต้นฉบับ : Page Facebook MK Restaurants