DITP ดันขายสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในสิงคโปร์ เพิ่มโอกาสการส่งออก


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ผลักดันสินค้าไทยขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Lazada/ Redmart ในสิงคโปร์ เผยสินค้าเข้าร่วมรายการจำนวนกว่า 700 รายการ ยอดขายรวมกว่า 600,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือกว่า 14 ล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้ายุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) พร้อมทำหน้าที่ “เซลส์แมนประเทศ” เพิ่มโอกาสในการส่งออกให้สินค้าและบริการของไทย และปรับใช้ช่องทางออนไลน์ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งกรมได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์ม Lazada/RedMart และประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อโซเชียลมิเดีย เมื่อวันที่ 28 เมษายน – 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวสิงคโปร์และผู้อาศัยอยู่ในสิงคโปร์

ทั้งนี้ กิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยดังกล่าว มีประเภทสินค้าที่เข้าร่วม ได้แก่ สินค้าอาหาร และเครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของไทย จำนวนกว่า 700 รายการ ยอดขายรวมกว่า 600,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือกว่า 14 ล้านบาท ส่งผลให้สินค้าไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุง และซอสต่างๆ รวมถึงสินค้าอาหารแช่แข็ง และอาหารสด

น.ส. สุปราณี ก้องเกียรติกมล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ กล่าวว่า มาตรการผ่อนปรนเข้าสู่การเปิดประเทศของรัฐบาลสิงคโปร์ในช่วงการจัดกิจกรรมทำให้การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ยังคงได้รับความนิยมสูง เพราะมีความสะดวกและรวดเร็ว โดยพฤติกรรมผู้บริโภคสินค้าออนไลน์มีแนวโน้มที่จะขยายเพิ่มมากขึ้นต่อไป การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์ม Lazada/Redmart ยังเป็นช่องทางในการเปิดโอกาสให้ผู้นำเข้าพิจารณานำเข้าสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ไทย และสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยอื่นๆ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมายังตลาดสิงคโปร์มากยิ่งขึ้น นอกจากนื้ การประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านทางสื่อโซเชียลมิเดียยังสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทยแก่ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์และผู้ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์และทำให้ภาพรวมในการจำหน่ายสินค้าไทยในสิงคโปร์ดียิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าไทยที่เกี่ยวข้องให้เกิดความเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตต่อไป