เป็นข่าวที่ทำเอาหลายคนอดใจหายไม่ได้ กับการออกมาประกาศข่าวความคืบหน้าของร้านดังอย่าง ร้าน iberry garden เชียงใหม่ ของเพจ เดี่ยว ที่ได้เล่าที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นที่เกิดความตั้งใจอยากเปิดร้านไอศกรีมจนนำมาสู่การสานฝันและประสบความสำเร็จอย่างมากของ โน้ส อุดม แต้พานิช และทีมงาน พนักงานร้าน ลูกค้า และปิดท้ายด้วยการแจ้งว่าขณะนี้ ทางร้านจำเป็นต้องปิดกิจการลงหลังเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องยาวนานจนไปต่อไม่ไหว และจำใจบอกลาในที่สุด
โดยบางช่วงของเนื้อหาที่เพจเดี่ยวโพสต์ไว้ ระบุว่า
ผมเริ่มทำร้านด้วยคนไม่กี่คน ป้านวลที่เคยเป็นแม่บ้านบ้านผมที่เชียงใหม่ พอเปิดร้านก็เรียกแกมาช่วย ชวนพี่สิน สามีแกมาทำสวนที่ร้าน ผมก็ส่งป้านวลไปเรียนทำเค้กที่ไอเบอร์รี่ กรุงเทพฯ สรุปถูกจริต ป้านวลชอบทำ แล้วทำอร่อยเลย พอกลับมาก็ต้องการลูกมือ ป้านวลบอกในหมู่บ้านแกที่หางดงมีคนชอบทำขนมเยอะเลย ไปชวนมาเป็นแก๊งป้าๆ ทำกันจนผ่านโปร กลายเป็นทีม
เบเกอร์รี่ที่แข็งแรงได้มาตรฐานไอเบอร์รี่
iberry garden เชียงใหม่ เปิดกิจการมา 13 ปี จากพนักงานสิบคนเป็นยี่สิบคน กลายเป็นหลายสิบคน ทั้งกะเช้า กะเย็น พาร์ทไทม์ ฟูลไทม์
ช่วงที่เราขายดีๆ ลูกค้าเยอะ เริ่มถามหาของกินเล่น ก็ต้องเริ่มทำอาหารกินเล่น ของทอด สลัด คนก็เริ่มเยอะ ก็ลามปามเพิ่มพนักงานขึ้นไปเรื่อยๆ พนักงานที่เพิ่มมา ส่วนใหญ่ก็เป็นลูก เป็นหลาน เป็นญาติๆ เป็นเพื่อนนักศึกษากันทั้งนั้น ก็ทำให้ผูกพัน กลมเกลียวกันเป็นพิเศษ
ผมสารภาพตรงๆ ว่า กิจการนี้ไม่ก่อให้เกิดความมั่งคั่งเลย แต่มันพออยู่ได้ ได้กำไรมาพอต่อเติม เปลี่ยนหลังคา เปลี่ยนระแนงไม้ ทำแว่น/ทำผ้าพันคอให้หมาตามเทศกาล เพ้นต์ลายการ์ตูนข้างๆ ร้าน ลงต้นไม้ เปลี่ยนหญ้า ปาร์ตี้พนักงาน มีไป outing กัน กำไรแจกโบนัสไม่เคยเหลือ ถามว่าหยุดอุดมได้มั้ย ไม่มีทาง เรียกได้ว่าขาดทุนต่อเนื่อง กำไรฮวบๆ ทุกๆ ปี
มันเหมือนผมทำร้านนี้เพื่อสานฝันการมีร้านไอติมในสวน เอาความสุข เอาความรื่นรมย์เป็นที่ตั้ง ผมได้ขึ้นไปเจอลูกค้า เจอแฟนเดี่ยว เจอน้องๆ พนักงานพ่ออุ้ยแม่อุ้ยที่รักกันเหมือนเป็นครอบครัวไปแล้ว น้องๆ ทุกคนก็ได้มีงานทำ ไปๆ มาๆ ร้านผมก็เหมือนศูนย์
ศิลปาชีพนิมมานเหมือนกันนะ
เราก็คงจะอยู่กันไปแบบนี้อีกนานๆ
ถ้าโลกใบนี้ไม่มีโควิด-19
อ่านฉบับเต็ม คลิก
ขอบคุณที่มา จาก FB Page : เดี่ยว