วิธีหนึ่งในการเริ่มต้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใหม่คือการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ แต่ในบางประเทศก็มีวัคซีนไม่เพียงพอที่จะฉีดให้กับประชากรในประเทศ ทำให้เกิดโอกาสของการเปิดทัวร์ท่องเที่ยวไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด –19ในต่างประเทศหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การท่องเที่ยววัคซีน”
บางประเทศที่มีปริมาณวัคซีนโควิด -19 เหลือมาก มองว่านี่เป็นโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ตัวแทนท่องเที่ยวหลายแห่งเริ่มเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมให้กับนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อสามารถรับวัคซีนและท่องเที่ยวไปด้วย อันเป็นการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศของตน
มัลดีฟส์
สถานที่ท่องเที่ยวดังระดับโลก ก็ประกาศโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวฟรีเช่นกัน ภายใต้แนวคิด 3V ได้แก่ Visit, Vaccinate และ Vacation หลังประชากรเกินครึ่งของประเทศได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็ได้รับวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน ซึ่งมัลดีฟส์ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา 1.5 ล้านคนในปีนี้
รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว อับดุลลา เมาซูม กล่าวว่า แคมเปญ Visit, Vaccinate และ Vacationจะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับวิธีการที่สะดวกในการเข้าถึงการฉีดวัคซีน แต่โครงการนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อประชากรพื้นเมืองได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แนวคิดหลักของการท่องเที่ยวที่เปิดกว้างคือการจัดให้มีการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและลดความไม่สะดวกน้อยที่สุด ดังนั้นเมื่อประเทศได้รับวัคซีนแล้ว เราจะเปิดท่องเที่ยวแบบ Visit, Vaccinate และ Vacation
รัสเซีย
ตามรายงานของสำนักข่าว Tassของรัสเซีย หนึ่งในหัวหน้าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศกล่าวว่า “ทัวร์ฉีดวัคซีน” พร้อมแล้ว โดยจะเลือกนักท่องเที่ยวต่างชาติที่วีซ่าและข้อกำหนดการเข้าประเทศยังไม่สิ้นสุด ราคาของทัวร์วัคซีนสามสัปดาห์สำหรับชาวต่างชาติจะอยู่ระหว่าง 1,500 ถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 46,500 – 77,500 บาท ไม่รวมค่าสายการบิน
Andrei Ignatyevประธานสหภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งรัสเซีย (RUTI) บอกกับ Tassว่า “วัคซีนพร้อมแล้ว แต่ปัญหาเรื่องการสนับสนุนการขอวีซ่าและการเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมายสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการรับวัคซีนรัสเซียนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข”
สหรัฐอเมริกา
บางเมืองและบางรัฐในสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ผู้เดินทางได้รับการฉีดวัคซีน ในเดือนเมษายน มลรัฐอะแลสกาประกาศว่าจะเสนอวัคซีนฟรีเมื่อมาถึงผู้มาเยือน โดยสามารถขอฉีดได้ที่สนามบินหลักของรัฐตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นไป
ทางด้านนครนิวยอร์กได้ประกาศว่าจะยกเลิกข้อกำหนดด้านถิ่นที่อยู่เพื่อรับวัคซีน และจะวางจุดฉีดวัคซีนป๊อปอัปตามสถานที่ท่องเที่ยว เช่น เซ็นทรัลพาร์ค ไฮไลน์ และสะพานบรูคลิน
ในขณะเดียวกันในหลายมลรัฐของสหรัฐก็เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาฉีดวัคซีน เช่น ไมอามี่ ซีแอตเทิลอลาบามา แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ไอโอวา ลุยเซียนา แมรีแลนด์ มิชิแกน มินเนโซตา มอนทานา เนวาดา นิวแฮมป์เชียร์ นิวเม็กซิโก นอร์ธแคโรไลนา นอร์ธดาโกตา โอไฮโอ โอคลาโฮมา เพนซิลเวเนีย เซาธ์แคโรไลนา เทนเนสซี เทกซัส และเวอร์จิเนีย เป็นต้น
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เปิดตัวการท่องเที่ยววัคซีนอย่างเงียบ ๆ โดยเสนอให้ทุกคนที่มีวีซ่าเข้าประเทศฟรี ในแอปดูแลสุขภาพของอาบูดาบี ชาวเอมิเรตส์และผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยี่ยมชมสามารถลงทะเบียนเพื่อรับ Pfizer/BioNTechของสหรัฐฯ-เยอรมัน หรือวัคซีน Sinopharmที่ผลิตในจีน
ผู้เข้าชมสามารถจองการนัดหมายโดยใช้ข้อมูลหนังสือเดินทางของตนในแอป ต้องมีหลักฐานการขอวีซ่าหรือตราประทับเข้าประเทศ ณ เวลาที่ฉีดวัคซีน
คณะกรรมการเหตุฉุกเฉิน วิกฤตและภัยพิบัติแห่งอาบูดาบี กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่า ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีวีซ่าเข้าประเทศที่หมดอายุหรือใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ “เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของพวกเขา และโดยคำนึงถึงสถานการณ์พิเศษของการระบาดใหญ่”
ดูไบ
เมืองใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาฉีดวัคซีนจากทุกประเทศ ยกเว้นนักท่องเที่ยวที่มาจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดีย ที่สำคัญนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องนำผลการทดสอบโควิดที่เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมาด้วย
สาธารณรัฐมอริเชียส
สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าระยะยาวและมีอายุมากกว่า 18 ปี จะได้รับอนุญาตให้ท่องเที่ยวได้ 1 ปี และได้สิทธิ์รับวัคซีนฟรี
นอร์เวย์
บริษัททัวร์เอกชนชื่อ World Visitor ได้จัดทัวร์ไปฉีดวัคซีนสปุตนิก ไฟว์ ที่รัสเซีย โดยมีสองทางเลือกได้แก่ ทริปสั้นฉีดวัคซีนโดสเดียวในราคา 1,199 ยูโร หรือประมาณ 45,700 บาท กับทริปยาวฉีดสองโดส ในราคา 2,999 ยูโร หรือประมาณ 115,000 บาท พร้อมกับพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรูตลอดทั้งทริป