ประเทศมาเลเซียถือเป็นตลาดสินค้าเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อสูงประเทศหนึ่งในอาเซียน ประกอบกับกระแสความใส่ใจสุขภาพและความงามที่เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้บริโภคหญิงและชาย รวมถึงอิทธิพลจากสื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าเครื่องสำอางได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้บริโภคในกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
เปิดเผยว่า การนำเข้าเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์ของมาเลเซียในปี 2563 มีมูลค่า 1,568.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 50,180.16 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 11.76 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค. – เม.ย.) มาเลเซียนั้นมีการนำเข้าสินค้าจากเกือบทุกประเทศเพิ่มขึ้น โดยมาเลเซียนำเข้าสินค้าจากไทยเป็นอันดับ 4 ร้อยละ 11.60 ของการนำเข้าทั้งหมด รองจากจีน ร้อยละ 12.37 สิงคโปร์ ร้อยละ 12.32 และสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 12.12 ตามลำดับ
การนำเข้าจากไทยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค.) ของปี 2564 มีมูลค่าอยู่ที่ 70.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,296.17 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 5.64 ในทุกประเภทสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับผม ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สบู่ และน้ำหอม เป็นต้น โดยจุดแข็งของผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจากไทย คือ ภาพลักษณ์และคุณภาพของสินค้าเป็นที่ยอมรับ มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย รวมทั้งระดับราคาที่สอดคล้องกับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน
นอกจากนี้ ผู้บริโภคในมาเลเซียนั้นให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสินค้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสุขอนามัยที่ผลิตจากวัตถุดิบหรือส่วนผสมจากธรรมชาติเพิ่มขึ้น อาทิ สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมจากถ่านและชาเขียวเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรค รวมถึงสินค้าที่ปราศจากสารพาราเบน(Paraben) ก็ยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถหาพันธมิตรธุรกิจในมาเลเซียได้โดยผ่านการนัดหมายเจรจาธุรกิจแบบตัวต่อตัวกับผู้นำเข้า (Knock Door) หรือการเจรจาธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ (Online Business Matching) รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริง (Virtual Exhibition) ที่สามารถเข้าร่วมได้แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งงานแสดงสินค้าสุขภาพและความงามที่น่าสนใจ อาทิ Beauty Online Trade Show ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2564, Virtual Exhibition FoodBev, Retail, Health & Beauty Platform ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2564 อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ของผู้จัดงานแสดงสินค้า เช่น Deltus B2B Beauty E-commerce Platform, HKTDC International Sourcing Show เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสามารถสมัครเข้าร่วม โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) โครงการที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ พร้อมสนับสนุนวงเงินในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) สูงสุด 200,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 สิทธิ์ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) สูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 ครั้ง ศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือ Facebook Page: SMEs Pro-active by DITP สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-507-7783 หรือ 02-507-7786