วิธีนำสินค้าของตัวเองเข้า 7-Eleven ผู้ประกอบการ SME ควรต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง พร้อมแบรนด์ตัวอย่างที่สามารถพาผลิตภัณฑ์เข้าเซเว่นได้สำเร็จ


นับตั้งแต่ปี 2534 ที่ซีพีออลล์เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่ต้องการความมั่นคงทางธุรกิจ ได้มีโอกาสในการเป็นผู้ร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งในปัจจุบันมีร้านสโตร์บิสิเนสพาร์ทเนอร์ ขยายสาขาไปแล้วจำนวนกว่า 6,500 สาขา จากจำนวนร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้งหมดกว่า 11,700 สาขา ซึ่งนั่นเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่เซเว่นได้ลงหลักปักฐานในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ
.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ร้านสะดวกซื้อที่เข้าถึงง่ายและสะดวกใกล้บ้านของเราในปัจจุบัน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เซเว่น อีเลฟเว่น จะเห็นได้ว่าแค่เพียงเราเดินออกไปหน้าปากซอย หรือเดินตามสี่แยกที่ผู้คนสัญจรพลุกพล่าน จะพบได้ว่าเรามักจะพบเห็นร้านสะดวกซื้อที่มีสีเขียวเป็นเอกลักษณ์นี้แทบจะเป็นภาพชินตา จนถึงขนาดสามารถเป็นหลักปักหมุดสำหรับผู้คนที่ต้องเดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป ให้สามารถรู้ตำแหน่งเพื่อไม่ให้หลงทางได้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางภูมิศาสตร์ได้ว่า เซเว่น ได้กระจายตัวซึมลึกอยู่ในแทบทุกชุมชนแล้ว

.

.

หลายคนคงคิดว่า การเสนอสินค้าไปขายในร้านเซเว่นนั้น จะต้องยุ่งยากและมีขั้นตอนมากมายให้ต้องปวดหัวอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดเลย เพราะยิ่งคุณเตรียมความพร้อมให้กับสินค้ามากเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้มีโอกาสร่วมทำธุรกิจกับร้านเซเว่นฯก็จะยิ่งง่ายมากขึ้นเท่านั้น
.
ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูวิธีการ นำสินค้าของเรา ไปลงขายในเซเว่น สำหรับผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสในการจำหน่ายสินค้าและหวังใจว่า สินค้าของเราจะมีโอกาสเปิดโลกสู่สาธารณะ จนต่อยอดรายได้เพิ่มขึ้นจากปกติ ทั้งยังสามารถมีโอกาสขยับขยายธุรกิจไปสู่เพดานตลาดที่สูงกว่าเดิม
.
สิ่งแรกที่ต้องเตรียมให้พร้อมก็คือสินค้าของเรา

ต้องดูว่าสินค้าของเรานั้นมีคุณภาพมาตรฐานตรงตามที่ร้านเซเว่นฯต้องการคือดูว่าสินค้าที่จะเสนอตรงกับความต้องการของตลาดหรือสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในขณะนั้นหรือไม่อย่างไร เพราะยิ่งเป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและเป็นเทรนด์ของตลาดในขณะนั้น ย่อมมีโอกาสที่สินค้าจะขายดีหรือได้รับความนิยม มากกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ และแน่นอนว่านอกจากความต้องการทางตลาดที่มีผลแล้ว คุณภาพมาตรฐานของสินค้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางร้านเซเว่นฯให้ความสำคัญสินค้าทุกชิ้นจะต้องผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานของสินค้า มีเครื่องหมายรับรองของทางราชการเช่น ได้รับอนุญาตจาก อย. หรือเครื่องหมายรับรองมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรมหรือ มอก.

.

ลงทะเบียนเพื่อนำข้อมูลของสินค้าไปกรอกให้ครบถ้วนในเว็บไซต์

เมื่อเตรียมสินค้าเรียบร้อย พร้อมที่จะนำเสนอ ขั้นตอนต่อไปก็เพียงแค่เข้าไปกรอกข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเราทางเว็ปไซต์ http://www.sme2idethailand.com/input/index_.php โดยการตรวจสอบเบื้องต้นของทางบริษัท จะดูจากความน่าสนใจของสินค้าเป็นหลักรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะนำมาวางขายซึ่งจะต้องไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ของบริษัท ซึ่งในขั้นตอนนี้นับว่าเป็นด่านแรกที่เราจะได้พรีเซ้นสินค้าของเรา จึงจำเป็นต้องกรอกข้อมูลให้ละเอียดที่สุด มีความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้กรรมการเห็นถึงความโดดเด่นของสินค้า จากนั้นถึงจะมีการสรุปว่าสินค้าที่พิจารณาผ่านความเห็นชอบในรอบแรกหรือไม่

.

นัดหมายเพื่อนำเสนอรายละเอียดสินค้า

หากผ่านการพิจารณาก่อนหน้านี้แล้ว ขั้นต่อไป เจ้าหน้าที่ของบริษัทจะดำเนินการนัดหมายให้เราเข้าไปนำเสนอสินค้า ตลอดจนแผนการตลาดสนับสนุนสินค้าดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะจัดทำข้อมูลและนำเสนอแก่คณะกรรมการคัดเลือกสินค้าของบริษัทเพื่อร่วมพิจารณาตามหลักเกณฑ์สำคัญ อาทิ แนวโน้มและทิศทางของการตลาด กลุ่มลูกค้า รวมถึงโอกาสเติบโตในอนาคต ในขั้นตอนนี้จะมีการพูดคุยเพื่อเจรจากันแล้ว ดังนั้น ควรเตรียมข้อมูลสินค้า ตลาดที่ต้องการเจาะ และตัวเลขความเป็นไปได้ในอนาคต (ยิ่งเห็นภาพชัด ยิ่งมีแต้มต่อ)

.

.

ตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิตรวมถึงกระบวนการผลิต

สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิตรวมถึงกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของกฏหมายที่ระบุไว้มีความปลอดภัยและถูกหลักอาชีวอนามัย ตลอดจนคำนึงถึงสภาพแวดล้อมรวมถึงการพิจารณาศักยภาพในการผลิตและส่งมอบสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขั้นตอนนี้เราสามารถเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ได้ หากโรงงานหรือสถานที่ผลิตยังไม่ได้มาตรฐานตามที่วางไว้ ซึ่งสามารขอความช่วยเหลือได้จากสถาบันการเงิน เพื่อพัฒนาระบบพร้อมกับยกระดับให้ตรงตามเกณฑ์ ทั้งนี้ควรต้องผ่านการพูดคุยกันแล้วหลังจากสินค้ามีความเป็นไปได้ที่เซเว่นจะนำไปขายในร้าน

.

กำหนดวันจำหน่ายสินค้า พร้อมปล่อยสินค้าล็อตแรก

หลังจากคุณผ่านมาตรฐานในเรื่องการผลิตและโรงงาน เมื่อผ่านมาถึงด่านนี้ นั่นหมายถึงสินค้าของคุณพร้อมจะเผยโฉมตัวเองสู่สายตาสาธารณะชนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการกำหนดวันจำหน่ายสินค้าและกำหนดยอดสั่งผลิตในล็อตแรก ซึ่งจะมีรายละเอียดและข้อกำหนดต่างๆ เช่นรูปแบบการกระจายสินค้าจะเป็นไปในลักษณะใดครอบคลุมทุกสาขาหรือต้องการเจาะจงเฉพาะพื้นที่ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

.

.
และหากผู้ประกอบการ SME บางท่านยังอาจลังเลว่า สินค้าเราจะเข้าไปขายในเซเว่นบ้างได้ไหม มันจะไกลตัวไปหรือเปล่า ท่านไม่ต้องหวั่นวิตกจนทำให้ตัวเองเกิดความท้อถอยไป เพราะเราได้นำแบรนด์ตัวอย่าง ที่สามารถฝ่าด่านเงื่อนไขที่เซเว่นได้วางไว้ จนสามารถสร้างมูลค่าให้กับสินค้าของตนเองได้มหาศาลมาไว้ที่นี่แล้ว

.

ผู้ประกอบการ SME ที่สามารถฝ่าด่านส่งสินค้าวางขายใน 7-Eleven ได้สำเร็จ

น้ำส้ม ShinSen อีกหนึ่งแบรนด์ SME ที่สามารถพาสินค้าน้ำส้มคั้นแท้ 100% ในระบบพาสเจอไรซ์รายแรกของประเทศที่ได้รับเครื่องหมาย อย.เข้าระบบร้านสะดวกซื้อเซเว่นได้สำเร็จ ที่มาพร้อมความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ไม่เติมน้ำตาล ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น ไม่ใส่สารกันบูด ซึ่งทางซีพี ออลล์ ได้เข้ามาให้การสนับสนุนและให้ความรู้ด้านการตลาดทำให้สินค้ามียอดขายมากกว่า 10,000 ขวดต่อวัน แม้จะอยู่ในภาวะโควิด-19 เรียกได้ว่า เข้าสาขาไหนสาขานั้นของหมด บางสาขาเหลือแค่ขวด สองขวดเพียงเท่านั้น บริหารงานโดย คุณยุทธ จึงสวนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูชิ เอฟ แอนด์ บี จำกัด

.

.
แบรนด์ต่อไปคือ ข้าวโพดหวานพันธุ์ฮอกไกโด ซึ่งได้รับการปลูกจากสมาร์ทฟาร์มเมอร์ไทย สามารถนำข้าวโพดจากไร่แปลงรูปเป็นเป็นมูลค่า และส่งขายในเซเว่นได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รสชาติเสียจนแพ้แหล่งต้นกำเนิด ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ ทานสดได้ ไม่ต้องนึ่งหรือต้ม ทานแล้วไม่อืดท้อง เนื่องจากมีปริมาณน้ำสูงถึง 75-80% และมีปริมาณแป้งเพียง 10-20% เมล็ดโตแน่นเต็มฝัก เนื้อกรอบ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอมละมุนแบบธรรมชาติ โดยเริ่มวางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่น ครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปี 2564 ด้วยยอดจัดส่ง 4,000 ฝักต่อวัน ปัจจุบันยอดจัดส่งอยู่ที่ 8,000-9,000 ฝักต่อวัน

.

.
โดยปัจจุบันมีลูกค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศออสเตรเลียให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา และในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มประเภทสินค้า สู่ข้าวโพดหวาน 2 สี (ขาว-เหลือง) ข้าวโพดหวานแดงข้าวโพดหวาน 3 สี (แดง-เหลือง-ม่วง) พร้อมทั้งหาช่องทางขยายสู่ตลาดต่างประเทศ

.

.
“สินค้าเอสเอ็มอี จะเติบโตได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องการควบคุมคุณภาพและการทำการตลาด หากสินค้าไม่มีคุณภาพ หรือคุณภาพสินค้าไม่ได้มาตรฐานเดียวกัน ก็จะไม่เกิดการซื้อซ้ำ หรือทำการตลาดไม่ถูกวิธี ก็ไม่ก่อให้เกิดยอดขายใหม่ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องหาผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาทั้ง 2 เรื่องนี้ได้ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” คุณศุภธนิศร์ ได้กล่าวทิ้งท้ายเพื่อเป็นข้อคิดให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจ

.

.
ขยับตลาดมาอีกนิดด้วยสินค้าแบบกินด่วนได้ทันทีกับ หมาล่าถ้วยร้อน Hot Cup บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนเองได้ ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องเวฟ แค่เติมน้ำเปล่า เจ้าแรกในประเทศไทย ที่เติบโตในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากตัวแทนจำหน่ายที่มีผู้สนใจนำไปขายต่อเป็นจำนวนนมาก และมาพร้อมกับตัวเลือกหลายรสชาติด้วยกันเช่น รสหม่าล่า รสแจ่วฮ้อนแซ่บ รสชาบูน้ำดำ แต่ด้วยตัวสินค้าที่ถูกจัดให้อยู่ในหมวดของสินค้ากระแสมาไวไปไว ไม่สามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนได้ ทำให้เจ้าของแบรนด์มองหาทางออกให้กับสินค้า จนได้เจอเซเว่น ที่พร้อมจะรับสินค้าของเขาเข้าไปขายในระบบ

.

.
“การได้เข้ามาจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้เราได้ทราบความต้องการซื้อจริงของตลาด วันนี้เรามียอดขายจากเซเว่นอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปลายเดือน ก.ค.นี้คาดว่าจะมีสินค้าเพิ่มอีก 1 รสชาติ และจะพัฒนาสินค้าใหม่ ให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองอย่างต่อเนื่อง” กิตติพงษ์ สุขเคหา เจ้าของผลิตภัณฑ์ หมาล่าถ้วยร้อน Hot Cup ได้กล่าวไว้

.

.
และมาถึงแบรนด์เด็ดที่สาวกอาหารเกาหลีต่างชื่นชมในรสชาติไส้กรอกกับแบรนด์ ต๊อกบกกี โดยสินค้าไฮไลท์ก็คือ “ไส้กรอกต๊อกบกกีชีส” ที่หลายคนต่างขนานนามเลื่องลือว่ามี รสชาติเหมือนนั่งทานที่เกาหลี เพราะที่มาของ ไส้กรอกสูตรเฉพาะที่ผสมผสานกับเส้นต๊อกบกกีเนื้อนุ่ม หนึบ ถูกนำเข้ามาจากประเทศเกาหลีต้นกำเนิดนั่นเอง
.

.
รัชดา บุญ-หลง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้เชฟ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้า ต๊อกบกกี ได้เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยมของคนไทยต่ออาหารเกาหลีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมอาหารอยู่แล้ว มีแนวคิดที่จะผลิตอาหารเกาหลีออกจำหน่าย จึงเข้าไปขอรับคำปรึกษากับทางซีพี ออลล์และร่วมกันพัฒนา จนได้มาเป็น “ไส้กรอกต๊อกบกกีชีส” และสินค้าอื่นๆ อาทิ ต๊อกบกกีฮอตซอส ,ไส้กรอก ต๊อกบอกกีชีส สูตรเผ็ดX3 , ไก่ซอสบลูดักชีส แฮปปี้เชฟ ตลอดจนยังช่วยโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรวมสินค้าในกลุ่มนี้จากเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000 ซองต่อวัน

.